วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

CHAPTER 11






“ผมไม่มีมนต์อะไรหรอก ผมแค่รักคุณจริงๆเท่านั้นเอง”
เสี่ยวมะ
เสี่ยวมาก แถมคนพูดก็เขินเองมากด้วย
วรองค์สูงแย้มรอยสรวลเมื่อมองเห็นคนตัวเล็กกำลังเขินจัด ท่าทางน่ารักเสียจนคนมองอดใจเอาไว้ไม่อยู่ ลู่หานชะงักเมื่อเห็นอีกคนปลดสายคาดเอวของเขา ดวงเนตรคมเหลือบมามองสบสายตาเขา คนตัวเล็กตื่นเต้นราวกับว่ามันเป็นเซ็กส์ครั้งแรกของเขาเสียกระนั้น
เซ็กส์...อาจจะไม่ได้เรียกว่าเซ็กส์แล้วกระมัง
ขาเรียวขาวผ่องขยับชันขึ้นเมื่อประทับจูบตอบองค์ชายหนุ่ม เกาะเกี่ยวอังสากว้างเอาไว้เมื่อถูกหัตถ์แกร่งลูบไล้ที่ต้นขาขาวจัดใต้ร่มผ้า ร่างเล็กสะท้านขึ้นพร้อมเชิดหน้าให้อีกคนเลื่อนเรียวโอษฐ์มาที่ลำคอระหง ทรงประทับจูบดูดดุนจนได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก
เรียวโอษฐ์หยักประทับจูบที่หน้าผากขาว เลื่อนมาสันจมูก ก่อนจะหยุดที่เรียวปากอิ่มเนิ่นนาน ดูดดุนจนเกิดเสียงเบาๆ ดวงเนตรคมสบดวงตาอ่อนหวานเพียงแค่อากาศกั้นนั่น อาการหลุบตาต่ำอย่างเขินอาย พร้อมปลอดอาภรณ์ให้พระองค์อย่างเขินจัดนั่นทำเอาองค์ชายหนุ่มรู้สึกลิงโลด มันจะไม่เหมือนเก่าก่อน ครานี้จะทรงทะนุถนอมไว้ด้วยสัมผัสและความรู้สึกทั้งหมดที่ทรงมี
อากาศรอบกายนั้นแสนหนาว หากกายเนื้อที่เสียดสีนั้นกลับสร้างความร้อนระอุราวกับจะมอดไหม้ คนตัวเล็กกว่าหอบหายใจหนักเมื่อพระชิวหาร้อนนัวเนียที่ยอดถัน แขนเรียวขาวโอบกอดองค์ชายหนุ่มไว้แนบแน่น ขณะที่เรียวปากแดงระเรื่อเผยอครางผะแผ่วเบา
โคนขาเรียวถูกรั้งขึ้นสูง พระพักตร์คมเลื่อนลงมาซุกไซร้ที่ช่วงท้องน้อยที่กำลังเกรงแขม่วตามแรง รู้สึกได้ถึงดอกไม้ตูมเต่งที่กำลังชูชันรอผลิบานอย่างชัดเจน ลู่หานอายจัดเมื่อเรียวโอษฐ์หยักครอบครองมันให้กับเขาเพื่อปรนเปรออย่างไม่นึกรังเกียจเลยไม่น้อย
ครานี้จะไม่เหมือนครั้งเก่าก่อน...สำนึกส่วนพระองค์บอกองค์ชายหนุ่มเช่นนั้น...เพราะจะทรงอ่อนโยนให้มาก กับของล้ำค่าชิ้นนี้
“อา...อึก...อื้อ...”
ดวงหน้าหวานส่ายไปมาอย่างน่ารังแก ขณะที่สะโพกนิ่มนั่นก็บดเบียดจนน่าเฟ้นฟัด องค์ชายหนุ่มสูดโอษฐ์แรงๆ ความหวานล้ำนั่นก็พุ่งทะยาน ลู่หานร้องออกมาเบาๆ ระตุกร่าง ก่อนจะทิ้งตัวลงอย่างน่าเอ็นดู
“อย่ากินสิฮะ...” คนตัวเล็กบอกเสียงหวาน พลางหอบหายใจอย่างอ่อนแรง “...มันสกปรกออก”
“ไม่หรอก...” ทรงประทับจูบที่เรียวปากนิ่ม เผยอออกให้ได้ทรงลิ้มรส ดูดดึงมัวเมาจนหอบหายใจกันทั้งคู่ “...ตาเจ้าแล้วนะ”
ลู่หานเม้มปากแน่นอย่างเขินๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ ขาเรียวขาวแยกออกกว้างขึ้นอีกนิด สะโพกขาวยกขึ้นจนเห็นความงดงามทั้งหมดบนเรือนร่าง องค์ชายหนุ่มทอดพระเนตรจนอีกคนมองค้อน
“เข้ามาเร็วๆสิ มองอยู่ได้ เขินเป็นนะ”
น้ำเสียงเง้างอดเร่งรอยสรวลให้แย้มกว้างขึ้น ต้นขาเรียวถูกรั้งจนโอบรอบบั้นพระเอวแกร่ง ลู่หานสูดลมหายใจลึกๆระงับอาการตื่นเต้น นี่ยิ่งกว่าครั้งแรกของพวกเขาอีกครั้ง พระหัตถ์แกร่งช้อนมือเรียวมาจุมพิตเบาๆ
“เจ้าพร้อมหรือไม่”
“ตั้งท่าขนาดนี้แล้วไม่เห็นต้องถามเลย อ๊ะ...!”
ดวงหน้าหวานแดงเรื่อเหมือนเลือดสูบฉีดอย่างรุนแรง ดวงตาคู่หวานปรือปรอย ขณะที่เรียวปากแดงระเรื่อเผยอเห็นไรฟันขาว องค์ชายหนุ่มโน้มพระพักตร์ลงชิมริมฝีปากแดงราวลูกแอปเปิ้ลแสนหวานอีกครา ลิ้มชิมน้ำหวานอุ่นๆด้านใน ทรงรู้สึกได้ถึงแรงขัดขืนของช่องทางบอบบาง คนตัวเล็กกำลังเกร็งรับท่อนกายของพระองค์
“อย่างเกร็ง...” รับสั่งแนบกระซิบพร้อมเวียนจูบ เวียนงับเรียวปากอิ่ม ทรงเห็นน้ำตาคลอหน่วง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พักหลังๆมานี้จึงจะได้เจ็บปวดพระทัยนักเมื่อทอดพระเนตรเห็นมัน “...เจ็บรึ?”
ลู่หานพยักหน้ารับ คงเพราะไม่ได้ทำมานานมากแล้ว ร่างกายเขาเลยลืมเลือนมันไปบ้าง ไม่เข้าคล่องเหมือนแต่เก่า และหากเป็นเมื่อเก่าก่อนองค์ชายหนุ่มคงตะบี้ตะบันแทรกพระวรกายเข้ามาอย่างไม่ลดละ ไม่สนใจความสุขสมของเขาเลยสักนิด แต่ไม่ใช่ครานี้ ลู่หานรู้สึกได้เมื่อเรียวโอษฐ์หยักประทับที่หน้าผากขาวจัดชื้นเหงื่อของตนเอง
“เข้ามาเถอะครับ ไม่...อึก เป็นไรหรอก”
“ไม่ เดี๋ยวเจ้าเจ็บ”
องค์ชายหนุ่มรับสั่งอย่างกังวล ครั้นจะถอนองค์ออก ลู่หานก็เลื่อนมือมากอดบั้นพระเอวเอาไว้ แล้วขยับตัวเข้ามาใกล้ คนตัวเล็กปรือตามองพระองค์ พร้อมซุกหน้าลงกับอังสากว้าง บอกเบาๆ
“คราวนี้ ผมให้...ด้วยความรักนะ”
ริมฝีปากอิ่มแตะที่ตำแหน่งพระทัย องค์ชายหนุ่มแย้มรอยสรวลออกมาบางๆ ก่อนจะโอบกอดร่างเล็กบอบบางนี่ ขยับพระวรกายแทรกเข้าไปในช่องทางคับแคบที่รัดรึงความหนุ่มแน่นของพระองค์แน่น ลู่หานเกาะเกี่ยวบ่ากว้าง พยายามสูดลมหายใจเพื่อเปิดรับอีกฝ่ายเข้ามาเป็นหนึ่งเดียว
ช่องทางนั้นเริ่มขยับขยาย องค์ชายหนุ่มประทับแนบริมเรียวปากอิ่ม หลายต่อหลายครั้ง เลื่อนมาที่ลำคอระหงหอมกรุ่ม ลู่หานจิกเส้นเกศาขององค์ชายหนุ่มแน่นสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในกายของเขากำลังร้อน ร้อนจัดเช่นเดียวกับการกระทำที่ทิ้งร่องรอยขององค์ชายหนุ่ม
“ข้าต้องการเจ้า...” รับสั่งสุรเสียงพร่า ราวกับสะกดอารมณ์เอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป “...ต้องการ...”
“อะ...อึก...อื้อ...”
คนตัวเล็กเริ่มขยับกายอย่างทรมาน ความรู้สึกเหมือนเรือนร่างบิดเร่าราวกับงูที่ถูกลนไฟ องค์ชายหนุ่มฉวยสะโพกนิ่มน่าฟัด ก่อนจะขยับพระวรกายจนร่างเกๆนั้นสั่นคลอนตามแรงส่งที่เร่าร้อน
“...อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า แรง...”...ไป
“อ๊ะ...”
สุรเสียงแกร่งครางออกมาผะแผ่ว ก่อนจะหยุดลงเมื่อทอดพระเนตรเห็นสีหน้าทรมานของคนตัวเล็ก ทรงชะงักองค์ ลู่หานนิ่งไปนิดเมื่อแรงส่งนั่นลดลั่นลง เขาขยับกายเข้ามาจูบเบาๆที่เรียวโอษฐ์หยัก
“ไม่เป็นไร...” ร่างเล็กเอื้อมมือมาสัมผัสแกนกายของตนเอง แล้วเลื่อนจับพระหัตถ์แกร่งให้มากอบกุมแกนกายของตน มองอย่างอ่อนหวาน “...ผมจะช่วยคุณเอง”
“หือ?”
“คุณไม่เคย...” ลู่หานยื่นหน้ามาคลอเคลียอีกฝ่าย “...รู้วิธีช่วยคู่นอนสินะ”
องค์ชายหนุ่มทำพระพักตร์ไร้เดียงสาชั่วขณะจนลู่หานหัวเราะออกมาเบาๆ มองพระองค์ด้วยแววตาพราวระยับหวาน
“ลูบผมตรงนี้ รูดสาวมัน...ตอนที่คุณเข้ามา แล้วผมจะผ่อนคลาย”
“เอาะ...อ่อ...” ทรงเชื่อฟังได้อย่างหมันเขี้ยวนัก “...ข้าจะลองดู”
ลู่หานยิ้มหวาน ก่อนจะครางกระเส่าเมื่อองค์ชายหนุ่มเริ่มขยับพระวรกายอีกครั้ง พระหัตถ์แกร่งฉวยเอาแท่งสีสวยที่เด่นล้ำมารูดรั้งตามคำบอกกล่าวของเขา มันให้ผลดีเยี่ยมจนกระทั้งคนที่ถูกปรนเปรอทั้งหน้าและหลังร้องครวญครางแทบไม่เป็นภาษา อกกำลังจะแตกตายเพราะความสุขท่วมท้น องค์ชายหนุ่มที่ก็ช่ำชองวิชาเกินครุแล้วกระมัง ถึงได้ทั้งปรนเปรอหน้าหลังและยอดถันอย่างชำนาญ ร่างเล็กขยับกายลุกขึ้นมาโอบรอบพระอังสากว้าง ขณะที่ขยับกายตามแรงส่งของอีกฝ่าย และแรงอารมณ์ของตนเอง
“เซฮุน...อ๊า! เซฮุน...อื้ออออออ...”
เรียวโอษฐ์หยักประทับแนบเรียวปากหวานช่ำ ดูดกลืนเสียจนได้ยินเสียงในเรือนเล็กๆ ไล่ตามเหงื่อไคลหอมหวาน การขยับกายเริ่มสอดประสาน เนื้ออุ่นโอบรัดบีบแน่นพระวรกายแกร่งจนกระทั่งต้องพระราชทานจูบหนักๆให้เป็นรางวัลหลายต่อหลายครา ทรงดันร่างเย้ายวนแนบผืนผ้าปูเล็กๆแล้วขยับพระวรกายดุดันจนกระทั่งร่างเล็กคลอนตามแรงส่ง ลู่หานกรีดร้องพร้อมกระตุกกายเกร็งรับหยาดรักของอีกฝ่าย พร้อมทั้งความสุขสมของเขาด้วย
เสียงหอบหายใจดังขึ้นห้องกว้าง องค์ชายหนุ่มประทับเรียวโอษฐ์กับเรียวปากนิ่มๆที่เผยอหอบนั่นอีกครั้ง นี่เป็นรสรักครั้งแรกที่ทรงตราตรึงกว่าครั้งไหนๆ ทรงประทับจูบซ้ำๆให้รางวัลกับคนตัวเล็กที่จะหลับไม่หลับแหล่

“นี่คือการร่วมรักใช่หรือไม่?”



READ CONTINUE...