วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

CHAPTER 2-2





“ไม่เจ็บ...” คำปลอบนั้นราวกับปลอบเด็กกำลังจะฉีดยา “...คราวนี้จะไม่ทำเจ้าเจ็บ...”

ริมฝีปากหยักกดแนบลงมาอีกครั้งราวกับปลอบประโลมให้คนตัวเล็กหายกลัว ลิ้นร้อนแตะเบาๆบนเรียวปากนิ่ม ครานี้คนตัวเล็กยอมเผยอให้มันแทรกเข้าไปแต่โดยดีเมื่อรู้ว่าคงไม่อาจต้านทาน ร่างสูงประคองท้ายทอยของอีกฝ่ายขึ้นเพิ่อกดจูบให้ลึกซึ้งกว่าเก่า ลู่หานดันอกอีกคนออกหลังจากถูกช่วงชิงลมหายใจไปนานพอควร

คนตัวเล็กหลุบตาลงต่ำ หากอีกคนก็ก้มหน้าลงมาปล้ำจูบอีกครั้ง ลิ้นร้อนไล้เลียลิ้นนิ่มพลางสำรวจไปทั่วภายในเรียวปากนิ่ม ลู่หานครางฮือประท้วงเมื่อเริ่มหมดลมอีกรอบ ร่างของเขาถูกโอบกอดพร้อมลากไล้ฝ่ามือทั่วแผ่นหลังบอบบางที่สะท้านขึ้นมาแนบชิดกับผู้ถูกกระทำ ร่างสูงผละจากมาประทับจูบที่แก้ม ปาก คาง คิ้ว ไล้ฝ่ามือลงบนแก้มนิ่มของคนที่เพียรก้มหน้าหลบสายตา ปัดผ่านแพขนตาหนา มันนุ่มเนียนดีจริงๆ

“เพราะผม...มีประโยชน์ใช่มั้ย”

คำถามราวตัดพ้อดังขึ้นโดยที่แม้แต่คนถามก็ยังไม่รู้ตัว คนถูกถามนิ่งไปนิด ก่อนจะผละออกมาดึงมือขาวเนียนไปไล่จุมพิต ลู่หานขยับตัวนอนตะแคงใต้ร่างของอีกฝ่าย เซฮุนก็กดจูบลงมาบนบ่าเนียนห่มคลุมไปด้วยผ้าแพรของชนชั้นสูง ปลดสายรัดเอวออกอย่างรวดเร็วแล้วเลื่อนฝ่ามือแกร่งเข้าลูบไล้ผิวกายนวลเนียนด้านใน วางลงบนหน้าอกขาวบอบบางก่อนจะบดขยี้น้อยๆ ที่ยอดถันเต่งตึงขึ้นสู้มือของเขา ลู่หานผวาเกร็งหลบฝ่ามือ หากกลับกลายเป็นว่าแผ่นหลังของเขาเสียดสีกับแผ่นอกของคนที่นอนซ้อนกันอยู่ ริมฝีปากหยักประทับลงบนใบหูนิ่ม ก่อนจะส่งปลายลิ้นเข้าตวัดแตะป่ายตามใบหูนิ่ม สัมผัสเหนอะหนะทำเอาลู่หานหลับตาแน่น พร้อมด้วยดวงหน้าที่แดงเป็นเปื้อน เขาหลุดครางออกมาเบาๆเมื่อมือนั้นลากจากแผ่นอกผ่านมาหน้าท้อง เลื่อนมายังความเป็นชายที่สงบนิ่ง

“ระ...รัชทายาท...”

ดวงหน้าหวานเบือนมามองคนกระทำ ดวงตาหวานช่ำปรือปรอยลงโดยธรรมชาติ วาววับด้วยน้ำตาอย่างไม่ตั้งใจ เรียวปากแดงก็บวมเจ่อชวนให้โน้มลงจุมพิตอีกครั้ง ลู่หานผวาคว้าเกาะเกี่ยวไหล่กว้าง เลื่อนมายังท้ายทอยของอีกฝ่าย รู้สึกละอายใจเมื่อเผลอตอบสนองอีกคน หากเขาก็ครางแนบชิดเรียวปากหยักเมื่อส่วนปลายของความเป็นชายถูกปลายนิ้วของอีกฝ่ายบดขยี้ เผลอกระดกสะโพกขึ้นรับแรงสัมผัสนั่น ขาเรียวอ้าออกและจิกลงบนผ้าปูนอนอย่างรัญจวนใจ ความเสียวไล่พล่านทั่วมวลท้อง พาลให้หัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ ลู่หานเริดหน้าขึ้นให้อีกคนประทับจูบที่ลำคอระหงอย่างยินยอม

เขาคงไม่ได้อยู่ในสถานะที่ขัดขืนคนตรงหน้าได้ มีแต่ต้องยอมเท่านั้น

ผ้าแพรราคาสูงเลื่อนหลุดจากผิวขาวจัด ลู่หานหอบหายใจในความมืดช้อนตาสบดวงตาสีดำเข้มของอีกฝ่ายที่จับจ้องมาอย่างโหยกระหาย ขณะที่ริมฝีปากหยักยังประทับที่แผ่นอกบอบบาง ดูดดุนเม็ดทับทิมสีหวานจนเกิดเสียในความเงียบ คนตัวเล็กครางแผ่ว ก่อนจะรั้งดวงหน้าคมนั้นมาประทับจูบอีกครั้ง ขณะที่สะโพกนิ่มถูกจับมาถูไถที่เอวแกร่งน้อยๆราวกับระบายความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้น บางอย่างที่สัมผัสทักทายกัน ทำเอาลู่หานหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

มือร้อนแตะเบาที่ทางเขาสีชมพูสวย ดุนดันปลายนิ้วเข้าไปทำเอาร่างเล็กเผยอปากครางเห็นไรฟันขาวจัด เสียงหัวเราะของผู้เหนือกลัวดังขึ้น ร่างสูงกระซิบเบาๆ

“รู้สึกดีใช่มั้ยเล่า”

ปลายนิ้วเรียวที่อยู่ด้านในขยับเพียงเล็กน้อย ลู่หานก็ผวาเกร็งทั้งร่าง ช้อนตามองอีกฝ่ายอย่างอ้อนวอน ด้วยดวงหน้าที่ร่างสูงจะไม่ยอมให้ใครได้เห็นมันเป็นอันขาด

นิ้วของเขาผูกสัมผัสรอบด้าน ช่างทางด้านล่างขมิบรัดอย่างบ้าคลั่งจากรอบสารทิศทำเอาเขาแทบคลุ้มคลั่ง อยากจะกลืนกินร่างเล็กเสียเดี๋ยวนี้ หากทว่ายังไม่ได้...ยังไม่ได้หรอก

“อ้อนวอนมาสิ”

เสียงกระเส่าทรงเสน่ห์ทำเอาลู่หานที่กำลังซุกหน้าลงกับบ่ากว้างเปล่าเปลือยนั้นเม้มปากแน่น เขาขยับสะโพกหนีนิ้วร้ายนั้นเป็นคำตอบ หากสิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นเอวบางถูกรวบ ร่างสูงผละกายออกห่าง ลู่หานก็หลับตาแน่นไม่ยอมมองหน้าคนกระทำ

“เจ้านี่มัน...ดื้อจริงๆเลยนะ”

คำพูดราวเอ็นดูนักหนา ดังขึ้นมือมือเขียวจับปลายคางมนส่ายไปมา ลู่หานเอื้อมมือสั่นๆไปจับฝ่ามือของอีกฝ่าย พร้อมดึงออกจากกายพร้อมเสียงคราง ลืนตาขึ้นมองอีกคนที่มองเขาอย่างไม่พึงพอใจพร้อมกับเอ่ยเสียงเครียด

“คุณนั่นแหละ ทำเป็นใจร้าย แต่จริงๆก็หลงผมแล้วล่ะสิ”

คำพูดนั้นเรียกประกายตาประหลาดจากคนฟัง ร่างสูงก้มหน้าลงบดขยี้เรียวปากนิ่มของคนที่ปากเก่ง กัดงับเบาๆแล้วดึงมันเล่นอย่างหมันเขี้ยว ลู่หานช้อนตาขึ้นมองอย่างไม่เกรงกลัวสักเท่าไหร่ เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อขาเรียวถูกจับแยกออกกว้าง ร่างสูงขยับกายเพื่อให้สอดใส่ได้ถนัด มองอีกคนอย่างเหนือกว่า แล้วอดที่จะยิ้มอย่างชอบใจไม่ได้เมื่ออีกคนเอื้อมมือมาหยิบเอาเศษผ้ามาปิดหน้า ยังไงก็คงจะละอายอยู่มากสินะ

“เอาออกสิ...” ดวงตาสีเข้มพราวระยับมองเรือนร่างงดงามใต้ร่างนั่น “...ข้าอยากเห็นหน้าของเจ้านะ”

คำพูดเหมือนออดอ้อน ทำเอาลู่หานขยับเปิดตาขึ้นมองหน่อย ก่อนจะปิดลงอย่างเก่าพร้อมบอกเสียงอู้อี้

“จะทำก็ทำไปสิ พูดมากอยู่ได้”

คำพูดน่าเอ็นดูนั้นเรียกยิ้มกว้างจากคนที่มองอยู่ ร่างสูงหลุบสายตามองช่องทางรักของอีกฝ่าย ก่อนจะจับแกนกายของตนเองให้ดุนดันเข้าไปด้านใน รู้สึกได้ถึงอาการผวาของคนตัวเล็ก ลู่หานยกมือขึ้นมาดันหน้าท้องแข็งแกร่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนั่น พลางช้อนตามองอย่างตัดพ้อ กัดปากอย่างเคืองๆ

ไหนบอกว่าไม่เจ็บไง

แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ที่นี่ไม่ใช่ยุคปัจจุบันที่สารหล่อลื่นให้เพศเดียวกันยามร่วมรัก ลู่หานเลยได้แต่กัดปากแน่นอย่างอดทน ยอมนอนนิ่งๆให้แกนกายนั่นเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพางค์ของตนเอง ร่างสูงขบกรามแน่นจนนูนเป็นสันกับความคับแคบที่สัมผัสได้ แรงตอดรับไม่เป็นจังหวะเพราะความเกร็ง กำลังกลืนกินตัวตนของเขาเข้าสู่ห้วงหฤหรรษ์ หยาดเหงื่อไหลรินลงบนเรือนกายขาวจัดที่แดงเรื่อไปทั้งกาย เพราะความเจ็บปวดและความรู้สึกซาบซ่านไปทั่ว

“อืม อา....”

ร่างสูครางเสียงกระเส่าทำเอาคนฟังหน้าแดงเรื่อ ผ้าที่ปิดหน้าอยู่ถูกดึงออก มือที่พยายามจะยื้อเอาไว้ก็ถูกรวบไว้ เซฮุนรั้งร่างของพระชายาตนเองมาไว้บนตักแกร่ง พลวงมองดวงหน้าหวานที่บิดเบี้ยวด้วยรัญจวนใจ

เขาจับมือเล็กเกาะเกี่ยวบ่ากว้าง พร้อมกระซิบแผ่ว

“เกาะเอาไว้”

ลู่หานผวาเกาะตามคำสั่งพร้อมซุบหน้าลงบนหัวไหล่ชื้นเหงื่อของอีกฝ่าย ก่อนจะครางออกมาไม่เป็นภาษาเมื่ออีกคนยกสะโพกนิ่มขึ้นเพื่อกระแทกกายเขาลงไปหาความเป็นชายที่ชูชั้นเหมือนอสรพิษร้ายที่เตรียมกัดงับเหงื่อ มือเรียวแปะป่ายบนแผ่นหลังก่อนจะจิกเล็บตามความรัญจวนใจ ขาเรียวถูกจับแยกกว้างมากขึ้นพร้อมๆกับแรงกระแทกกระทันของคนที่อยู่เหนือเขา ทุกอย่างรุนแรง และรวดเร็วจนหายใจไม่ทัน

“อ๊า! อ๊า! อ๊ะ...!! เดี๋ยว! เดี๋ยวนะ...!! อ๊าาาาา!!

ร่างเล็กแทบขาดใจเมื่ออีกคนหมุนวนร่างเขาพร้อมบดขยี้กายแกร่งลงมาจนความซ่านเสียวบาดลึกถึงกระดูก ได้แต่เชิดหน้าครวญครางเสียงดัง ริมฝีปากหยักประทับลงมา ดูดกลืนเสียงหวาน ในตอนนี้ลู่หานผวาโน้มลำคอของอีกคนเพื่อจูบตอบ อาจจะไม่อ่อนโยน หากก็เร่าร้อนนัก

มือแกร่งลากไล้ตามผิวขาวเนียนที่ชื้นแฉะไปด้วยหยาดเหงื่อ ลูบไล้ต้นขาขาวที่สั่นระริกขณะที่โถมกายใส่ไม่ยั้ง เสียงหอบหายใจกระเส่าสลับกับครวญครางดังขึ้น ร่างเล็กส่ายหน้าอยู่ตรงแผงอกเมื่อเขาคว้าความต้องการของอีกคนมารูดรั้ง

น้ำสีขาวขุ่นทะลักเต็มฝ่ามือแกร่ง เขาจับอีกฝ่ายให้หันหลังให้ทั้งๆที่เรือนกายยังอยู่ในร่างเล็กนั่นๆ  ลู่หานเท้าตัวลงกับฟูกนอน รับรู้สึกแรงโถมกายที่ทำเอาเขาสั่นโยนไปด้านหน้า ขณะมือที่มือของอีกคนยังปรนเปรอเขาอยู่

พายุอารมณ์โถมกระหน่ำ ก่อนที่ร่างสูงจะกระแทกกายครั้งสุดท้ายลงไปแล้วแช่กายนิ่งให้หยาดรักพวยพุ่งเข้าใส่เรือนกายขาวจัดของอีกฝ่าย ร่างสูงทรุดตัวลง ผละกายจากมา พลิกร่างสั่นระริกของอีกฝ่ายให้หันมาเผชิญหน้า ลู่หานหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ขณะที่ริมฝีปากของเขาถูกฉกฉวย พะเน้าพะนอ เหมือนขอให้จูบตอบ ก่อนที่เขาจะสมยอมแต่โดยดี

“เจ้าเคยจุมพิตกับใครมาก่อนใช่หรือไม่”

ร่างสูงกระซิบแนบเรียวปากนิ่ม ไล้ข้างแก้มของอีกฝ่าย ลู่หานเผลอซุกหน้าเข้าเบียดร่างสูงของอีกฝ่าย แบ่งปันไออุ่นอย่างเผอเรอ เพราะอากาศตอนกลางคืนของโชซอนนั้นค่อนข้างจะหนาวเย็น

“อื้อ...”

“เคยใช่หรือไม่”

“...กับแฟน...” ลู่หานครางตอบ ง่วงจะตายอยู่แล้ว

“แฟน?

“คนรักของผมน่ะ สมัยเรียนมัธยม” 

ลู่หานงึมงำตอบ อีกคนทำหน้ายังไงเขาไม่รู้ เพราะกำลังหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน อยากจะนอนเต็มแก่ หากกลายเป็นว่าร่างสูงผลักร่างของเขาออก ลู่หานขยับตัวดึงผ้าห่มมาห่มอย่างไม่สนใจ คิ้วเรียวขมวดแน่นเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสชื้นแฉะที่ความต้องการอันสงบนิ่งของเขา

“อ๊ะ...!...”

คิ้วเรียวขมวดแน่น มือบางกำผ้าปูเตียงอีกรอบพร้อมเผลอกระดกสะโพกรับสัมผัสนั้นตามธรรมชาติ ดวงตาคู่สวยปรือขึ้นมอง ร่างสูงที่กำลังแหวกขาเรียวของเขาเพื่อชำเราส่วนลับด้วยริมฝีปาก

“...คะ...คุณ...”

ลู่หานเผยอปากครางเสียงสั่น ร่อนสะโพกรับความอุ่นร้อนชื้นแฉะนั่น มือบางเอื้อมไปสัมผัสศีรษะของอีกฝ่าย จิกแน่นพร้อมดึงดันผลักไสออกจนเป็นผล

ไม่สิ...

อีกฝ่ายเพียงแค่ตัดสินใจคืบคลานมาประกบริมฝีปากกับเขา รสจูบคราวนั้นดุดันกว่าครั้งเก่า เร่าร้อนจนแทบละอาย จมูกโด่งและริมฝีปากหยักพรมสัมผัสชื้นที่หลังใบหู กระซิบเบาๆขณะที่เคล้นคลึงรูดสาวจุดรวมความรู้สึกของร่างเล็กให้บิดเร่า

“เจ้าคงไม่คิดว่าข้าจะหยุดอยู่แค่นี้สินะ”

ลู่หานกัดริมฝีปากของตนเองพร้อมสูดหายใจอย่างซ่านเสียว ขณะที่อีกคนไล่จูบบนดวงหน้าเขา ก่อนที่เขาจะทำได้เพียงครวญครางอยู่ใต้ร่างสูงแกร่งที่ขยับกายอย่างรุนแรงทุกครั้งที่คลื่นอารมณ์ถาโถมลงมา

**


READ CONTINUE...






วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558

CHAPTER 2-1






หากพูดถึงชนชั้นสูงจากต้าชิง...
...ไม่มีอะไรจะห้ามองค์ชายรัชทายาทให้ทรงไพร่ไปถึงพระเชษฐาต่างมารดาได้...
...ในตำหนักแดงที่เร้นลับ องค์ชายหนึ่งอันเกิดจากพระราชินี องค์ชายที่ควรได้ครอบครองบัลลังก์หากมิใช่เพราะเหล่าขุนนางที่รักในสายเลือดบริสุทธิ์ของโชซอน...
...สงบเสงี่ยม เจียมตัวว่าโดดเดี่ยว และยอมพ่ายแพ้ดีกว่าดิ้นรนเอาชนะ...
...นั่นคือต้าชิงเพียงคนเดียวที่องค์ชายเซฮุนรู้จัก ต้าชิงที่สร้างบาดแผลทางใจ และไม่ว่าจะมองมุมใด เซฮุนก็ยังคงรังเกียจในมหาอาณาจักรนี้อย่างเหลือแสนนัก...
...แต่ต้าชิงคนนั้น ช่างต่างจากต้าชิงคนนี้ ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขานัก
“ปล่อยผมนะ!! นี่!! บอกให้ปล่อยไงเล่า!!?”
ดื้อพยศเหมือนม้า...ไม่สิ เหมือนกวางมากกว่า กวางป่าที่ไม่ยอมเชื่อง แม้จะไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงทำให้ผู้อื่นเจ็บ ตื่นผู้คนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของมนุษย์ที่พามันมา หากองค์ชายอี้ชิงเหมือนกระต่ายบ้านที่แสนเชื่อง องค์ชายลู่หานก็ไม่ต่างจากกวางหนุ่มคึกคะนองที่แสนพยศ แต่องค์รัชทายาท...ทรงรู้จักวิธีการปราบพยศ
เบาะสีขาวกว้างเหมือนสมรภูมิศึกเมื่อจับโยนร่างน้อยนั่นลงไป ดูเอาเถอะ บอบบางขนาดเบาะขาวยวบไม่เท่าไหร่ หากก็ยังเงยหน้าขึ้นมาถลึงแววตาจ้องมอง จะว่าไปเมื่อราตรีก่อนก็ไม่ได้พินิจมากมายถึงขนาดในเช้าวันนี้
ลู่หานผงะถอยห่างอีกฝ่าย ดวงตามองระแวดระวังราวกวางน้อยที่ตื่นมาเจอคนแปลกหน้า ถอยเพื่อเพิ่มระยะห่าง หากแลมองการคุกคามของอีกฝ่ายเขาก็แข็งใจเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว
“มีแค่บนเตียงนี้เท่านั้นแหละที่คุณจะชนะผมได้”
คำพูดนั้นเรียกประกายตาจุดวาบ พร้อมด้วยเรียวปากหยักที่ขยับยิ้มเยาะ เอื้อมมือมาขยุ้มผ้าสีแดงที่อีกฝ่ายสวมใส่อยู่ กระชากรวดเดียวมาอยู่ในอาณัติอย่างง่ายดาย พร้อมเอ่ยอย่างหยันเยาะใส่ดวงหน้าตระหนกนั่น
“งั้นข้าขอดื่มด่ำกับชัยชนะครั้งนี้ให้สาแก่ใจเถอะนะ”
มือบางถูกรวบขึ้นเหนือหัว ขณะที่คนใต้ร่างมองมาอย่างเจ็บแค้นนัก ร่างสูงก็โน้มดวงหน้าลงมาขยี้ริมฝีปากอิ่ม ขบกัดจนมันได้เลือดและแดงเห่ออย่างน่ากลัว ลู่หานสบถในใจ สัมผัสแบบนี้แทบจะไม่แตกต่างจากคืนวานเลยสักนิดเดียว สัมผัสที่อยากจะหนีไปให้ไกลๆหากก็ทำไม่ได้
ทำไมจะต้องเป็นเป็นเขา
ทำไมดวงวิญญาณนี้จะต้องมาอยู่ในร่างของเขาด้วย
ทำไม
คำถามนั้นวนเวียนซ้ำไปมาเมื่ออีกคนประทับจูบไซร้อย่างรุนแรงที่แนวกรามสวย เสื้อที่สวมใส่ถูกกระชากออกจนคนใส่รู้สึกเจ็บ ร่างสูงผละมาสบสายตาเขา ด้วยสายตาที่ไม่ยอมคน
เลือดหนุ่มขององค์ชายรัชทายาทร้อนผ่าว ภาพด้านล่างมันเย้ายวนเกินไป ทั้งดวงหน้าหวานล้ำ ปากนิด จมูกหน่อย ดวงตางามโตที่เขม่นมองเขาราวกับลูกกวางระแวงภัย ไหนจะผิวขาวๆที่มีร่องรอยรักผุดผาดราวกับกลีบเหมยกระจายอยู่บนพื้นหิมะ
เชื้อพระวงศ์แห่งต้าชิงเป็นเช่นนี้ทุกคนหรือ เขาเริ่มทอดถอนใจในหัวอก งดงามอย่างลึกล้ำ เพียงแค่มองก็อาจจะถลำลึกลงไปได้
ดีจริงๆที่เป็นบุรุษ เพราะไม่ว่าจะรุนแรงขนาดไหน ก็คงจะชอกช้ำหรือมีเชื้อไขให้สู้หน้ากันไม่ติดใช่หรือไม่
คิดได้เช่นนั้นเรียวปากหยักก็ขยับยิ้มร้าย มือแกร่งเลื่อนขึ้นมาผสานมือเล็กๆแล้วบีบแน่น ลู่หานเบือนหน้าหนี เมื่ออีกคนซุกไซร้ดวงหน้าลงมาอีกครั้ง มันยังเหมือนเมื่อคืน มีแต่ความเจ็บ...ปะปรายกับสัมผัสวาบหวาม สัมผัสที่เจ็บจนอยากจะร้องตะโกน แต่ก็เปล่งเสียงไม่ออก ทำไม่ได้แม้แต่จะร้องไห้
“อ๊ะ...!”
ร่างเล็กผวาเฮือกเมื่ออีกฝ่ายตวัดมือขึ้นซ้อนหลังให้ได้กัดกินเนื้อนวลได้อย่างใจ รอยช้ำที่ช้ำอยู่แล้วถูกทำซ้ำ ที่ๆไม่เคยถูกประทับก็ประทับลงไปใหม่ มือร้อนที่ไล่สัมผัสอยู่แผ่นหลังยังให้ความรู้สึกเหมือนเดิม เช่นเดียวกับดวงตาที่มองผิวขาวๆสั่นระริกเพราะถูกรังแกยังคงคิดเห็นเช่นเดิม
...อยากจะกัดกินร่างนี้ให้แหลกลาญ...
ไม่ปล่อยให้เป็นแค่ความคิด เรือนกายนิ่มถูกฟ้อนเฟ้นอย่างหนักมือ ริมฝีปากแตะเบาที่ยอดถันสีอ่อนที่แข็งขืนก่อนจะขบกัดเสียเต็มแรง เรียกเสียงร้องออกมาเบาๆจากคนที่กำลังกำท้ายทอยเขาแน่นด้วยความเจ็บปวด สะโพกบอบช้ำถูกบีบแรงๆอย่างหมันเขี้ยว จนคนตัวเล็กครางออกมาเบาๆ
“ซะ...ซาดิส”
คำที่น่าจะเป็นคำก่นด่าดังขึ้น เซฮุนเลิกคิ้วขึ้นสูง หยุดการกระทำ ช้อนหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายพร้อมถามอย่างสงสัย
“ภาษาต้าชิงหรือ แปลว่าอะไรเล่า”
ลู่หานกัดปากแน่น ก่อนจะตอบอย่างไม่เกรงกลัว
“พวกชอบความเจ็บปวด โรคจิต!!”
“ซาดิส...” ร่างสูงทวนคำพูดนั้น ท่าทางจะถูกใจไม่น้อย “...ข้าชอบคำนี้”
ร่างของลู่หานถูกพลิกอย่างรุนแรง  พร้อมๆกับต้นขาถูกจับชันขึ้นสูง มือแกร่งล้วงลูบรอยแยกเล็กๆ พร้อมยัดนิ้วเรียวให้ผลุบเข้ารวดเดียวทำเอาร่างเล็กถึงกับสะดุ้งเฮือก ร่างสูงก้มลงกระซิบเบาที่ข้างใบหูนิ่ม เซฮุนควานนิ้วไปโดยรอบ กดผนังนุ่มชื้นที่ตอดรัดแน่น แทรกลึกเข้าไปซ้ำๆ พร้อมมองอาการสั่นสะท้านของอีกฝ่าย
“ข้าชอบ...ความเจ็บปวดของผู้ที่ข้าเกลียด”
“ละ...อ๊ะ แล้ว...! ผมไปทำอะไร...!! ฮื้ออออ เอานิ้วออกไป!!”
ลู่หานเผลอตวาดลั่น น้ำตารื้นเมื่อถูกชำเราด้านหลังอย่างหนักหน่วง อีกคนแย้มรอยยิ้มออกมาพร้อมๆกับถ่างนิ้วควานไปมา เป็นรอยยิ้มที่น่ารังเกียจนัก
“หึ...”
ลู่หานรับรู้ได้ถึงน้ำหนักที่ทาบทับลงมาจากด้านหลัง ก่อนที่อะไรบางอย่างจะถูกยัดเข้ามาสรรพางค์ในคราเดียวจนเขาผวาเฮือก ร่างสูงครางออกมาเสียงดัง เมื่อช่องทางด้านล่างตอดรัดเขาอย่างรุนแรงจนน่าพึงพอใจ ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายปรับร่างกาย องค์รัชทายาทขยับกายอย่างใจ ขณะที่ลู่หานผวากัดผ้าขาวแน่น เจ็บปวด ราวกับมีดแทงซ้ำๆ
“อืม อาาาา...อึก...”
ร่างสูงยกสะโพกเล็กขึ้นพร้อมควงกายไปมา ช่องทางเล็กขมิบตอบรัดไม่เป็นจังหวะ ชวนให้กระแทกซ้ำๆ เขาจับร่างนั้นพลิกมาเผชิญหน้า รู้สึกสุขสมอย่างสุดๆเมื่อเห็นแววตาเจ็บปวด หากทว่าดื้อรั้น
ก้มลงจูบหนักๆที่เรียวปากอิ่มนั่นอีกครั้ง พร้อมกระแทกกายลงซ้ำจนร่างเล็กเผลอปากคราง ร่างสูงชักกายออกมาจนเกือบหลุดก่อนจะกระแทกกลับเข้าไปซ้ำๆ สักพักเขารู้สึกได้ บางสิ่งบางอย่างดุนดันที่หน้าท้องแกร่ง ผละจากมาก็เห็นริ้วแดงบนดวงหน้าดื้อดึง ลู่หานคว้าเศษผ้ามาปกปิดดวงหน้าอย่างกระดากอาย เขาเจ็บปวด หากก็สุขสม จนร่างกายเกิดแรงปรารถนาอย่างน่าอายขึ้นจนได้
“หึ...”
รอยยิ้มของอีกฝ่ายที่เห็นได้จากช่องผ้า...เขาเกลียดนัก
ยิ่งตอนมือแกร่งแทรกปลายนิ้วเข้ามาในริมฝีปาก ก่อนจะเริ่มต้อนขยับกายจนเขาเผลอคราง ลู่หานกรีดร้อง เมื่อแรงเสียดสีนั้นกำจายความสุขไปทั่วร่าง ยิ่งตอนที่อีกคนแอ่นกายฉีดพ่นความอุ่นร้อนเข้ามาในเรือนร่างเขา เกลียดมาก...

...เกลียดจริงๆ...

 .
.
.
“พะ...พอ...พอเถอะ”
เสียงครางของคนสิ้นเรี่ยวแรงดังขึ้น ก่อนจะถูกบดขยี้เรียวปากอีกครั้ง สะโพกนุ่มถูกคว้าเอาไว้ เขาซอยสะโพกแกร่งเข้าแนบชิดอีกหลายครา ก่อนจะปลดปล่อยหยาดเชื้อเข้าสู่เรือนกายบอบช้ำ ขยับบดเบียดราวกับรีดกาย แล้วเลื่อนออกมาอย่างอ้อยอิ่ง ลู่หานรู้สึกโล่งใจนักเมื่อมันจบลง เขาถูกกระชากขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งพร้อมการประทับจูบที่รุนแรงบนขมับบาง ไล่จูบซ้ำๆบนดวงหน้าแดงปื้น เกลี่ยหยาดน้ำตาที่กลิ่งเกลือกราวน้ำคางบนผิวกลีบบุปผา ก่อนจะเลื่อนมาขยี้เรียวปากนิ่มแรงๆอีกหลายครา

ส่วนอ่อนไหวถูกฉวยมาบดบี้ ลู่หานเกาะไหล่อีกคนไว้แน่น ซบหน้าลงกับอกแกร่งพราวเหงื่อ บางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่เบื้องล่าง มันกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้งหากทว่าไม่มีเสียงขันทีหน้าห้องดังขึ้น



READ CONTINUE...




วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558

CHAPTER 1





ราตรีนี้แหละ ที่ข้าจะทำลายศักดิ์ศรีขององค์ชายแห่งต้าชิงให้สิ้นซาก”
เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้น ลู่หานเบิกตากว้าง เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นองค์ชายรัชทายาทกำลังแย้มรอยยิ้ม...เป็นยิ้มของผู้มีอำนาจที่เหนือกว่า เหมือนราชสีห์ที่กำลังจะขย้ำลูกกวางที่เดินหลง
อย่านะ...เดี๋ยว!...”
ร่างเล็กผวาเฮือกเมื่อผ้าลายวิจิตรตัวนอกถูกกระชากออกโดยแรง มือแกร่งกำเสื้อสีขาวที่สวมด้านในก่อนจะกระชากจนหลุดออกจากร่าง
...อื้อ...ไม่เอา...!!”
ริมฝีปากหยักกดจูบริมฝีปากเล็กๆที่ร้องประท้วงนั่น ลู่หานกำเสื้อของอีกฝ่ายพร้อมพยายามผลักออกห่าง มันไม่เหมือนจูบที่เขามอบให้กับแฟนสมัยเรียนมัธยม ความเจ็บปวดนี่ราวกับแฝงไว้ด้วยความเกียจชังที่ไม่คิดปิดบัง ลิ้นร้อนไล้เลียกลีบปากนุ่มราวกับตราเป็นเจ้าของก่อนจะจาบจ้วงเข้าในโพรงปากนิ่ม บดเบียดลงมาจนคนถูกกระทำหายใจไม่ออก ลิ้นเล็กๆถูกโลมเลียต่อให้พยายามหนีก็เหมือนเป็นการตอบโต้ที่เรียกเสียงครางเบาๆอย่างพึงพอใจ ลู่หานพยายามเบือนหน้าหนี หากอีกคนกลับจับท้ายทอยเอาไว้มั่น ร่างบางถึงกับหอบหายใจเมื่ออีกฝ่ายเลื่อนริมฝีปากมาที่ลำคอเรียว มือเล็กเร่งผลักไส ส่งผลให้ฟันขาวขบลงบนเนื้ออ่อนต้นคออย่างแรงจนคนตัวเล็กกว่าร้องคราง
จะ...เจ็บ...!!”
แผ่นหลังบอบบางเริ่มไม่ติดกับเตียง เมื่อมือแกร่งเลื่อนมาลากไล้ สัมผัสผิวกายนิ่มนวลชื้นเหงื่อแห่งความหวั่นไหว มือแกร่งที่กรำอาวุธก็บีบฟ้อน เลนเอาร่างน้อยๆที่อยู่ในวงแขนแกร่งส่ายไปมาเพราะความเสียวซ่านระคนเจ็บปวด
อาภรณ์ที่สวมใส่ถูกกระชากออกจนร่างเล็กๆนั้นเปล่าเปลือย ดวงหน้าหล่อซุกลงบนซอกคอขาวจัดของคนที่พยายามดันร่างของเขาออกห่าง ลู่หานร้องลั่นพร้อมผักร่างของอีกคนออกห่าง
ปล่อยนะ!! บอกให้ปล่อยไง!! ไอ้บ้านี่!!”
ร่างสูงถูกผลักออกพร้อมๆกับหมัดหนักๆที่ชกเข้าที่ข้างแก้ม ได้ยินเสียงร้องอย่างตระหนกของคนที่เฝ้ามองอยู่ ลู่หานเร่งฉวยผ้าคลุมบางๆสีขาวมาปกปิด เรียวปากแดงเรื่อเจ่อบวมเพราะถูกกระทำอย่างหนักหน่วง ดวงตามองมาเหมือนกวางน้อยที่บาดเจ็บ
คนที่ถูกกระทำหันกลับมามองด้วยแววตาเย็นเยียบ ก่อนจะกระชากอีกคนทีเดียวขึ้นมานั่งบนตัก น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมกระซิบแผ่วเบากับเด็กหนุ่มหลงยุค
ฟังนะ...ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะเคยยิ่งใหญ่มาขนาดไหน แต่ตอนนี้เจ้าเป็นชายาของข้า! กรรมสิทธิ์ของข้า!! ที่เจ้ายืนอยู่คือโชซอน!! ดินแดนที่ข้าสามารถทำอะไรกับเจ้าก็ได้ องค์ชายแห่งต้าชิง!!”
สิ้นคำพูดร่างเล็กก็ถูกผลักลงบนฟูกนอนอย่างแรง ร่างสูงโถมกายขึ้นทับ ไม่ฟังเสียงห้ามปรามพร้อมน้ำตาของคนที่ได้ชื่อว่าพระชายาเลยสักนิดเดียว กระชากทีเดียวปราการสุดท้ายก็ขาดครามือแกร่ง ฟันคมกัดลงบนหัวไหล่เล็กๆจนคนตัวเล็กร้องครางออกมาเสียงดัง
ริมฝีปากที่ร้องด้วยความเจ็บปวดถูกฉวยโอกาส ลิ้นเล็กถูกดูดดุนโลมเลียจนน้ำใสๆไหลออกมาให้องค์ชายรัชทายาทได้เก็บเกี่ยว ฝ่ามือแกร่งเฟ้นฟ้อนไปตามกายขาวจัด ยิ่งขาวมาก...ก็ยิ่งอยากทำให้มันเปื้อนมลทินก็เท่านั้น
ปล่อย! ยอมแล้ว...ไม่เอาแล้ว ฮึก...” ลู่หานร้องไห้ออกมาเหมือนเด็ก เมื่อริมฝีปากหยักและลิ้นร้อนสากนั่นลากเลียตั้งแต่ปลายคางมายังไหปลาร้าสวย “...ช่วยด้วย ฮึก ช่วยผมด้วย...”
เสียงครางสั่นเครือนั่นสะท้อนใจใครบางคนที่มองอยู่นัก หากองค์ชายหนุ่มกลับทำได้เพียงเบือนหน้าหนี พระอนุชาไม่ปราณี นั่นคือความจริง แต่ความจริงที่โหดร้ายกว่านั้นคือ...ต่อจากนี้ทุกๆอย่างจะโหดเหี้ยมกับองค์ชายแห่งต้าชิงมากกว่านี้ มากกว่ามาก
ฟันคมไล่กัดและสร้างรอยจูบไปตามผิวกายขาวจัด ลิ้นร้อนละเลงดูดดุนราวกับพยายามจะดูดชิ้นเนื้อมาขย้ำ ฝ่ามือแกร่งเลื่อนมาแตะที่เม็ดทับทิมสีสวย บดบี้ปลายนิ้วไปจนร่างเล็กๆสะท้านเฮือก จิกเล็บคมบนตุ่มไตอย่างแรง จนได้ยินเสียงครางอย่างอ้อนวอน
บะ...เบา...” ลู่หานครางออกมาเสียงสั่นอย่างไร้ศักดิ์ศรี น้ำตาใสๆไหลอาบแก้ม มันไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเดียว มันมีแต่ความเจ็บปวดและกระสัน อารมณ์ร่วมของเขามีน้อยมาก...น้อยเกินไป ทั้งๆที่หลับตาลงยังรู้สึกได้
ฟันขาวกัดลงบนเม็ดทับทิมจนเลือดซิบ เร่งให้มือเรียวกดจิกลงบนเส้นผมสีเข้ม ลู่หานครางออกมาเสียงสั่นเมื่ออีกคนบดเบียดปลายลิ้นลงมาจนทั้งเจ็บปวด ทั้งเสียวกระซ่านไปทั้งกาย แต่ยิ่งเขาร้องออกมาอย่างเจ็บปวดมากเท่าไหร่ ยิ่งดูเหมือนอีกฝ่ายจะพึงพอใจมากที่เท่านั้น องค์ชายหนุ่มละริมฝีปากจากยอดถันที่แข็งขืนและบวมเป่งซิบเลือด ก่อนจะลากปลายลิ้นตามไรขนอ่อนมาที่หน้าท้องขาวจัด ดุนดันที่รอยบุ๋มกลางลำตัวซึ่งตอนนี้ส่ายไปมาราวกับยั่วยวนลิ้นของเขาเสียอย่างนั่น
แรงดุนดันที่หน้าท้องทำเอาหลังเล็กๆไม่ติดเตียง มือเรียวเผลอกดดวงหน้าคมกับหน้าท้องแบราบไร้ไขมันและกล้ามเนื้อของตัวเองราวกับเร่งเร้าอย่างลืมตัว บางอย่างในร่มผ้ากำลังดุนดัน องค์ชายหนุ่มสัมผัสได้ เหลือบสายตาเย็นเยียบขึ้นมองกายขาวๆเต็มไปด้วยรอยจูบและรอยฟันที่แดงเรื่อ ดวงหน้าหวานที่หลับตาแน่นกำลังบิดเบี้ยวอย่างน่าชม เร่งเลือดหนุ่มของคนมองให้ร้อนระอุ
!!”
ลู่หานสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกคนจับขย้ำความต้องการของเขาอย่างไร้ความปรานี เล็บคมสะกิดลงบนส่วนปลายที่แดงเรื่อจนเยื่อหุ้มบางๆนั้นเปิดออก ดวงตาของคนถูกกระทำปรือขึ้นมองอย่างหวาดหวั่น ซึ่งอีกฝ่ายก็กดแน่นราวกับไม่ยอมให้น้ำขาวขุ่นนั่นพุ่งทะลัก ลู่หานหน้าแดงเรื่อเมื่ออีกคนถามอย่างเริงอารมณ์
เจ้าพร้อมแล้ว...ใช่มั้ย”
คนตัวเล็กส่ายหน้า หากอีกคนกลับกดปลายนิ้วลงต้นทางสวาท มันไม่เหมือนมือของพวกนางกำนัลที่ต้องการทำความสะอาดให้กับเขา มันจมลึกลงไปมากกว่านั้นจนเยื่อพรหมจรรย์ปริกแตก ลู่หานผวาจึกเล็บกับเบาะนอนเอาไว้แน่นพร้อมกัดริมฝีปากกับความเจ็บราวร่างจะแยกออก
นางกำนัล...”
เสียงเรียกที่ไม่คาดคิดทำเอาลู่หานถึงกับเบิกตากว้าง องค์ชายหนุ่มหันไปเอ่ยเรียกคนที่อยู่นอกห้อง พอไม่เห็นคนที่ก้าวเข้ามาก็ตวาดเรียก นางกำนัลสาวคนนึงวิ่งเข้ามาพร้อมดวงหน้าแดงเรื่อ แล้วยิ่งแดงหนักเมื่อเห็นภาพที่เห็น
จับพระพักตร์ของพระชายาหันมาทางข้า”
คำสั่งราบเรียบที่ทำเอาลู่หานถึงกับหน้าแดงก่ำ หลงลืมความเจ็บปวดไปได้ชั่วขณะ
ข้าอยากเห็น...หน้าพระชายาของข้า”
เรียวปากหยักขยับเป็นรอยยิ้ม เป็นยิ้มราวกับปีศาจในความคิดของลู่หาน นางกำนัลคนนั้นหน้าแดงก่ำ เดินมาที่หัวเตียง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งทำตามคำสั่ง ลู่หานสบดวงตาสีดำขลับสั่นระริกนั่น ร่างบางผวาอีกครั้งเมื่อนิ้วเรียวที่อยู่ในตัวกำลังควานไปมาราวกับจะเบิกทาง องค์ชายหนุ่มรับสั่งอย่างเริงใจ
รู้สึกเป็นไงบ้างล่ะ ชายาของข้า”
คำพูดนั้นทำเอาลู่หานถึงกับกำมือแน่น เขาเผลอเกร็งร่างจนถูกสึกปวดตุบๆบริเวณตรงนั้น รู้สึกได้ถึงนิ้วเรียวอีกนิ้วที่กำลังกดไปรอบปากทางเข้า ก่อนจะเลื่อนเข้ามาอีกจนบาดแผลปริแตกมายิ่งขึ้น ลู่หานผวา เสียงเคร่งก็เอ่ยขึ้น
กดพระชายาเอาไว้”
พะ...เพคะ”
ดวงหน้าของนางกำนัลแดงก่ำ แทบไม่ยอมมองมายังเขาเลย หากก็หลับหูหลับตากดร่างของลู่หานแนบพื้นเตียง ลู่หานหลับตาแน่น ไม่อยากเห็นภาพคนเลวร้ายที่กำลังรังแกเขา ไม่อยากเห็น
หากเจ้าไม่ลืมตาขึ้น ข้าจะสังหารนางซะ”
เสียงเย็นๆนั้นดังขึ้น เร่งให้ลู่หานถึงกับเบิกตาโพลง นางกำนัลคนนั้นก็เช่นกัน หน้าแดงเรื่อถอดสีลง ลู่หานเอ่ยเสียงสั่นเครือ
หะ...ให้เธอออกไป ผมจะมะ...มองหน้า...คะ...คุณเอง”
เจ้ามีสิทธิ์เลือกเหรอ พระชายา”
อีกคนยังเอ่ยอย่างเริงใจ นิ้วทั้งสองควานไปจนทั่ว ไม่ได้หาจุดกระสัน หากต้องการทำให้เจ็บปวด พอเห็นอีกคนเม้มปากแน่น เจ้าตัวก็ถ่างนิ้วที่อยู่ภายในทำเอาคนตัวเล็กกรีดร้องออกมาเบาๆ
หือ มีสิทธิ์เหรอ?”
ลู่หานน้ำตาไหลพราก หมดเรี่ยวแรงต่อต้าน นิ้วที่สามกดลงไปในร่างของเขา เริ่มต้นเบียดเสียดเข้าออกจนเกิดเสียงเบาๆน่าอาย ความปวดหนึบเกิดขึ้นก่อนจะกลายเป็นความกระสันเสียว ลู่หานเผลอยกสะโพกขึ้นรับพร้อมๆกับนิ่วหน้าเพราะความปวดหนึบแบบที่ผู้ชายพึงมี เขาอยากจะปลดปล่อย หากไม่ใช่เพราะมือของอีกคนยังกดส่วนปลายเอาไว้แน่น ไม่ยอม
ยกสะโพกขึ้น”
คำสั่งต่อมาดังขึ้น ลู่หานตัวสั่นเทาเมื่ออีกคนดึงปลายนิ้วออก พร้อมก้มหน้าลงมา ลิ้นร้อนนั่นแลบออกมาแตะเบาๆรอบปากทางเขา ก่อนจะดันเข้าไปแทนที่ปลายนิ้วพร้อมโลมเลียด้านใน เกิดเสียงดูดเบาๆเอาคราบเลือดนั้นเข้าปาก ความวาบหวามที่เกิดขึ้นทำเอาลู่หานเผลอยกสะโพกตามคำบอกกล่าว มือแกร่งบีบแรงๆบนสะโพกเล็กๆจนเกิดรอยนิ้ว ร่างเล็กสูดลมหายใจจนเกิดเสียงกระสัน รับจังหวะที่อีกฝ่ายขยับปลายลิ้นร้อนที่อยู่ในกายเขา
เจ้าพร้อมแล้ว”
คำพูดเบาๆพร้อมๆกับสายคาดเอวของคนตัวสูงถูกปลดให้หลวมขึ้น องค์ชายหนุ่มไม่ถอดมันออก เพราะว่าอยากให้อีกคนต้องอับอายแต่เพียงผู้เดียว ดวงตาเย็นเยียบมองนางกำลังสาวที่อดกัดปากตัวเองอย่างซ่านเสียวไม่ได้พร้อมสั่ง
จับให้พระชายามองหน้าเราตลอด เข้าใจมั้ย”
พะ...เพคะ”
เสียงของนางกำนัลคนนั้นสั่นเสียวเบาหวิว ภาพที่หล่อนเห็นตรงหน้ามันปลุกอารมณ์ดิบในตัวเหลือเกิน คนที่อยู่ข้างห้องและมองอยู่ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก มือแกร่งฉวยเอาขาเรียวให้ยกขึ้นสูง จนมองเห็นปากทางสวาทที่บวมเป่งอย่างชัดเจน
ลู่หานเกร็งร่างจนสั่นเมื่อความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายแทรกเข้ามารวมเป็นหนึ่งกับร่างกาย อยากจะเบือนหน้าหนีหรือหลับตาก็ทำไม่ได้ ได้แต่มององค์ชายหนุ่มที่ยึดต้นข้างหนึ่งของเขาเอาไว้ ขณะที่อีกมือหนึ่งคอยกอบกำส่วนปลายของความเป็นชายของเขาไม่ให้มันปล่อยน้ำรักออกมา
เสียงสูดปากเบาๆดังขึ้นจากร่างสูง ยิ่งคนตัวเล็กเกร็งร่างเท่าไหร่ ปากทางเข้ายิ่งคับแคบบีบรัดเขามากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเสียงแหบพร่ามีเสน่ห์กว่าสตรีนั่นครองออกมาเบาๆเมื่อเขาขยับกายเข้าแรงๆ หากก็ยังคงไม่สุดปลายทาง อารมณ์ร้อนผ่าวยิ่งพุ่งพล่าน ร่างสูงกระแทกกายเข้าใส่จนร่างสั่นกระตุกสั่นอย่างรุนแรง เม็ดเหงื่อคาวไหลตามขมับจนปลายคางแกร่ง ชวนให้คนมองใจสั่นยิ่งนัก
ลึกจนสุดลึก ลู่หานเกร็งตัวจนปวดเมื่อย ขณะที่ในใจภาวนาหวังให้มันจบ หากทุกอย่างมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น องค์ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึก ขณะที่หลับตาลงซึมซับความรู้สึกที่ยากจะบรรยายเมื่อผนังอ่อนด้านในตอบรับ ยังไม่เสียดสี...ถ้าขยับมันคงจะ...
ไม่รอให้สันนิธานเอง สะโพกแกร่งเริ่มขยับชักร่างออกเริ่มแต่น้อย หากทำเอาร่างเล็กๆที่ตกอยู่ใต้อาณัติไหวไปทั่วร่าง แผ่นหลังครูดไปมากับผืนฟูกนอนนุ่มนิ่มแทบจะไร้ความรู้สึกเมื่อเทียบกับแรงกระแทกกระทันภายในที่ดูจะรุนแรงมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ นางกำนัลสาวแทบจับร่างนั้นไม่อยู่มือเมื่อองค์ชายหนุ่มเริ่มจังหวะราวกำลังขี่ม้า ร่างสูงคุกเข่ายกตัวเองขึ้นสูงพร้อมจับสะโพกนิ่มให้แอ่นขึ้นตามในท่าถนัด มือแกร่งฉวยต้นขาอ่อนให้ยกขึ้นสูงพร้อมกระแทกกระทันกายลงไป เสียดสีภายในชักกายออกจนเกือบสุดก่อนจะกระแทกลงไปใหม่จนเกิดเสียงดังซ้ำๆเป็นจังหวะ ไม่ต้องพูดถึงคนถูกกระทำที่ยามนี้กรีดร้องลั่นซ้ำๆเพราะความเจ็บปวดและเสียวซ่านแทบขาดใจ มือเรียวยกขึ้นปะป่าย แกะมือแกร่งที่บีบรัดส่วนปลายออกพร้อมร้องครางออกมา
ปะ...อ๊า! ปล่อยยยย!! อ๊า! ปล่อย...อะ...อ๊า! อ๊าาาาาาาา!!”
ร่างสูงเหยียดยิ้มอย่างใจร้าย ก่อนจะโน้มตัวลงกดจูบหนักๆที่เรียวปากที่กำลังครางเสียงแสนหวานรัญจวน ทรงปลดปล่อยออกมาจนน้ำรักล้นช่องภายในหากยังคาร่างเอาไว้ เห็นน้ำสีชมพูอ่อนทะลักออกมาจากปากทางเขาตรงช่องว่างระว่างแกนกายและเนื้อผนังนิ่ม กระซิบเสียงเหี้ยมอย่างใจร้าย
ใครจะปล่อยเจ้าไปเล่า”
ส่วนที่กำลังจับนั้นเป็นสีเข้มพร้อมโป่งขึ้นมาคล้ายจะระเบิดอารมณ์ หากเขาใจร้ายเหลือเกิน มือเรียวกดบดบี้มันให้สายน้ำขุ่นได้ซึมออกมาเพียงเล็กน้อย ขณะที่โถมกายเข้ามาไม่รู้จับ ลิ้นร้อนแลบลากไล้ทั่วกลีบปากและไรฟันขาวที่กำลังเปล่งเสียงคราง ชุ่มฉ่ำน้ำหวานรสแปลกให้อีกคนลิ้มลอง
เอาลิ้นเจ้าออกมา”
เสียงสั่งราบเรียบหากคนเสียเปรียบก็ยอมแต่โดยดี ลิ้นร้อนแตะตวัดรัดราวงูฉาก ดุนดันมาจนนางกำนัลทีจับพระเศียรของพระชายาอยู่เผลอปล่อยหลายครั้ง ภายในกายกำลังต่อสู้กัน ผู้รุกรานคืบไล่ครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งด้านบนและด้านล่าง ทะลุทะลวงโหมลงมาอย่างไม่มีเหนื่อยอ่อน ลู่หานพลิกกายลงจากตักของนางกำนัลเหมือนอยากจะคลานหนี หากนั่นกลับทำให้อยู่ในท่าที่ถนัดแก่การร่วมรักมากกว่าเก่า
หนีไม่พ้นหรอกน่า...”
ร่างสูงกระซิบเบาๆข้างใบหูที่แดงเรื่อ ยังมีเครื่องประดับอยู่เลย ก่อนจะกัดงับมันโดยแรง สะโพกแกร่งควงร่างที่อยู่ในกายอีกฝ่าย พร้อมกระแทกกระทันเข้าไปราวกับกำลังสำรวจทุกซอกหลืบในร่างนั้นจนอีกคนน้ำตาริน เขาปลดปล่อยมาอีกครั้ง...เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ หากก็ยังไม่ยอมให้ลู่หานได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย
อ้อนวอนสิ...” เสียงกระซิบครานี้ราวซาตานแห่งความมืด “...อ้อนวอนข้า อ้อนวอนสามีของเจ้า แล้วคลานมาหาข้าซะ”
ร่างสูงผละจากไป ทิ้งร่างของอีกคนอย่างไม่ไยดี สะโพกนุ่มตกลงมากระแทกกับฟูกจนร่างเล็กครางอย่างเจ็บปวด เขามองคนที่กำลังแย้มรอยยิ้มอย่างชั่วร้าย
พวกขุนนางกำลังเดินกลับไป เพราะไม่อาจทนเห็นองค์ชายรัชทายาทของเขากระทำการป่าเถื่อนได้อีก นางกำนัลคนนั้นก็ทำท่าจะผละหนี หากว่าไม่มีคำสั่งเย็นเยียบขององค์ชายหนุ่มเสียก่อน
พวกท่าน...” เขาคงหมายถึงพวกขุนนางที่กำลังจะเดินออกจากห้อง “...ลากนางไปประหารด้วย”
คำพูดคราวนี้ทำเอาทุกคนถึงกับเบิกตากว้าง นางกำนัลคนนั้นกำลังกรีดร้อง หากสุดท้ายราชาแห่งโชซอนก็พยักหน้ารับ
ประหาร”
ดะ...เดี๋ยว...” ลู่หานที่หอบหายใจรวยรินอยู่บนฟูกร้องออกมาเบาๆ “...เธอไม่มีความผิดนะ”
ผิดที่รู้ว่าเจ้าเป็นบุรุษ...” ร่างสูงเอ่ยเสียงเบา เป็นคำพูดที่เด็กหนุ่มอยากจะสวนกลับ ก็เขาไม่ใช่เหรอที่เรียกเธอเข้ามาในห้องนี้ “...นี่คือโชซอน โชซอนที่ข้าจะทำยังไงกับใครก็ได้ ไม้เว้นแม้แต่เจ้า”
ดวงตาสองคู่สบกัน ลู่หานเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงเมื่อเห็นอีกคนเอนกายพร้อมแยกขาออกอย่างสบายๆ มองเขาด้วยสายตาที่น่ารังเกียจ
ถ้าเจ้าไม่อยากมีจุดจบเหมือนนาง...ก็ทำซะ”
ดวงหน้าของคนฟังเปลี่ยนสี เข้าใจความหมายของคำพูดนั้นดีทีเดียว เด็กหนุ่มกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหล เมื่อคลานเข้าไป ก่อนจะอ้าปากรับความเป็นชายขององค์ชายหนุ่มที่มีกลิ่นคาวเลือดของเขาและคราบคาวน้ำรักจากเหตุการณ์เมื่อครู่ รู้สึกได้ถึงมือที่ลูบเบาๆบนเส้นผม พร้อมเสียงครางอย่างพอใจเบาๆ
ดี...ดีมาก...”
ลู่หานรู้สึกสะอิดสะเอียนเต็มทน เสียงของนางกำนัลคนนั้นเงียบไปแล้ว ขณะที่สะโพกแกร่งเริ่มขยับชักเข้าออกในริมฝีปากเขา ความแข็งแกร่งเสียดสีกับเนื้อนิ่ม มันไม่ได้ดีเหมือนในกายของอีกฝ่ายหรอก หากสิ่งที่เซฮุนต้องการคือการทำลายศักดิ์ศรีขององค์ชายแห่งต้าชิงต่างหากเล่า ร่างสูงปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง เล่นเอาเด็กหนุ่มจากต่างแดนสำลักจนตัวโยนก่อนจะถูกกระชากขึ้นมานั่งบนตัก
จำเอาไว้...” เขาแปวกก้อนเนื้อหนั่นขาวนุ่มนั่นออก เพื่อแทรกกายเข้าไปในเรือนร่างบอบบางนั่นอีกครั้ง “...ข้าคือสามีของเจ้า ข้าสั่งอะไร เจ้าต้องทำตาม อา...”
เสียงครางทุ้มดังขึ้น ขณะที่ลู่หานน้ำตาอาบแก้ม โยนตัวตามแรงส่งและบดเบียดจากเบื้องล่าง ร่างสูงยกสะโพกนิ่มขึ้นนิด ก่อนจะขยับกายโถมใส่ไม่ยั้งจนร่างนั้นขยับขึ้นลงตามแรงโยน
ลู่หานกรีดร้องออกมาเสียงดัง เมื่ออารมณ์ที่สั่งสมมาของเขาระเบิดน้ำรักไปทั่วเอวแกร่งที่แน่นขนัดด้วยกล้ามเนื้อ ร่างสูงกระชากชุดของตนออกเผยเรือนร่างแข็งแกร่งเปล่าเปลือย ขณะที่ยังขยับกายเข้าออกร่างเล็กๆบนตักอย่างทรงพลัง
มือแกร่งบีบกรามเล็กๆให้เผยอออกพร้อมกดจูบ บอกเสียงนุ่มนวล

ยินดีต้อนรับ พระชายาของข้า”


**

READ CONTINUE…