วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

CHAPTER 19






“ทำอะไร หือ?”
“นี่มาง้อนะ...” ลู่หานบอกน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ถดกายลงแล้วปลดสายคาดเอวอีกฝ่าย “...ก็ต้องทำให้คุณพอใจสิ”
ดวงเนตรคมจุดประกายประหลาด อย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนกับสตรคนอื่นคือการรู้จักปรนนิบัติ เรียกร้องอย่างน่ารัก เง้างอนแต่พองาม และในบางคราก็ใจกล้าอย่างเหลือเชื่อ เช่นดังตอนนี้ นี่แหละที่ทำให้ทรงโปรดนัก
“เช่นนั้นข้าคงต้องเง้างอนบ่อยๆเสียแล้ว”
“อย่าเลย ผู้ชานขี้งอนน่ะไม่น่ารักนะครับ”
ลู่หานบอกพร้อมก้มหน้าลงต่ำ ท่ามกลางสายพระเนตรพราวระยับ ที่ไม่ช้านานก็ปรือปรอยเมื่อกลีบปากหวานฉ่ำครอบครองความต้องการเบื้องร่างอย่างเชื่องช้า พระทนต์ขบเรียวโอษฐ์แน่น กรขาวจัดเลื่อนลงขยุ้มกำเส้นผมของพระมเหสีคนงามที่กำลังปรนนิบัติความเป็นชายให้พระองค์อย่างเอาพระทัย และยิ่งเป็นยอดดวงใจที่ใฝ่หามานาน ทุกอย่างล้วนแล้วแต่สร้างความสุขสมยิ่ง
“อึก...ลู่หาน อา...ตรงนั้น...”
ดวงตาคู่สวยเหลือบแลขึ้นมองพระพักตร์สุขสม ก่อนจะสูดปากเร่งจังหวะนุ่มนวลเร่งรัดให้ยิ่งเตลิด ลู่หานดูดความเป็นชายของอีกฝ่ายจนเกิดเสียง ไล้เลียแนบชิดแท่งเนื้อร้อนอย่างเจ้าเล่ห์ หากก่อนที่จะถึงจุดสุดยอดองค์ราชาหนุ่มกลับผลักไส แล้วเร่งประคองพระมเหสีคนงามขึ้น ลู่หานอุทานเบาๆเมื่อถูกดันจนแทบจะจมเนื้อฟูก ทรงเร่งปลดเปลื้องอาภรณ์เขาอย่างรวดเร็ว
“เซฮุน...” สองมือไขว่คว้าคนรักมาโอบกอดและประทับจูบอย่างลึกซึ้ง ลู่หานงึมงำแนบโอษฐ์หยัก “...ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน...อื้อ”
ทรงประทับจูบดูดดื่มจนเกิดเสียงสองชิวหากระหวัดรัดรึงกัน บ้างอ่อนนุ่ม บ้างเร่าร้อน พระกรเรียวล้วงเข้าใต้ชายผ้าแล้วลากไล้กายเนื้อขาวขึ้นมาที่กลางหลังเล็ก ปลดเปลื้องมันออกอย่างไม่ไยดีและว่องไว
ราวกับใฝ่หามาเนิ่นนาน ทรงระบายควาทรมานตลอดหนึ่งสัปดาห์ลงบนเรือนกายขาวเนียนที่บิดเร่า ไม่รีรอที่จะประทับตราทั่วทุกสรรพางค์ ฝ่าพระหัตถ์เรียวเคล้าคลึงทุกตารางนิ้วบนผิวขาวกระจ่างใส องค์ราชาเซฮุนกระซิบแนบเรียวปากอิ่มเมื่อแหวกเรียวขาขาวจัดออกเพื่อแทรกพระวรกายเข้าไปรวดเดียว
“ลู่หาน...อยู่กับข้า แฮก...อยู่กับข้า อึก...”
“ซะ...เซฮุน...” ร่างน้อยกระเพื่อมไหวตามแรงส่ง เร่งเร้าองค์ราชาหนุ่มอย่างเว้าวอน “...ช้าหน่อย อึก...ช้าหน่อยครับ”
อาภรณ์ของราชาแห่งโชซอนถูกถอดทิ้งอย่างไม่ไยดี มือเรียวเล็กข่วนพระฉวีขาวจัด อกบางกระเพื่อมไหวเย้ายวนล่อสายพระเนตรให้ขบงับ เสียงดูดดึงเนื้ออ่อน ตอดเม้มทุกผิวกายที่เข้าใกล้เรียวโอษฐ์ สลับกับบดขยี้ติ่งเนื้อนิ่มที่แข็งเป็นไตให้อารมณ์ยิ่งเตลิด ลู่หานประคองพระพักตร์คมสบประสานพระเนตรอย่างเจ้าเล่ห์ ผลักวรองค์สูงให้นอนราบแล้วควบสะโพกราวกับขับขี่อาชาไนย
“อึก...ผมรักคุณ...” คนตัวเล็กบอก เหงื่อกาฬไหลพล่านพาเอาผิวแดงระเรื่อเนียนเป็นเงาระยับล้อแสงเทียน มือบางวางแนบพระอุระ ขยับยกกายแล้วกระแทกสวนลงไปจนได้ยินเสียงเหนอะหนะจากร่องลึกและเสียงครางอื้ออึงในห้องกว้าง บดขยี้สะโพกนิ่มลงไปจนรู้สึกได้ถึงความเสียดสีทั้งด้านนอกและด้านใน “...ผมรักคุณนะ อึก...ฮ้า...”
ราชาหนุ่มผลักดันร่างน้อยให้องค์ใต้พระวรกาย ทรงยึดสะโพกขาวราวน้ำนมไว้แนบแน่น ก่อนจะขยับพระวรกายแรงๆบดเบียดกายเนื้อจนไร้ช่องว่าง แนบพระพักตร์กับซอกคอขาวผ่อง ลู่หานจิกพระเกศาสีเข้มแน่นครวญครางออกมาราวกับขาดใจ ขยับสวนจังหวะกลับแรงๆ จนเกิดเสียงกระทบคละเคล้าเสียงหอบหายใจ
ความอุ่นร้อนสาดซัด กลิ่นคาวคละเคล้าคาวเหงื่อ องค์ราชาหนุ่มประทับโอษฐ์ที่เรียวปากอิ่มแดงระเรื่อ กระซิบถามเพียงขาดพระทัย
“เจ็ดวันมานี้ คิดถึงข้าบ้างหรือไม่”
ลู่หานหอบหายใจ ยกศีรษะมามองด้วยแววตาฉ่ำหวาน ลูบไล้พระปรางชื้นเหงื่ออย่างอ่อนโยน
“แทบขาดใจ”
แววเศร้าสร้อยนั้นทำเอาองค์ชายหนุ่มแนบพระพักตร์ลงไปที่หน้าอกขาวพระเพื่อมไหวขึ้นลง ขบเม้มจนเกิดรอยกุหลาบผุดผาด พระกรแกร่งขยี้ฟ้อนเฟ้นเนื้อนวลละเอียด ความชุ่มแฉะเบื้องล่างถูกความแข็งร้อนขยี้เสียดแทงลงมาอีก กลืนกินทุกสรรพางค์งดงาม เรียกเสียงพร่ำเพ้อละเมอหา โดยไม่สนอะไรอีกทั้งนั้น...


...ไม่สนแม้ว่าเหล่าข้าราชบริพารจะยังยืนตากหิมะที่หน้าพระตำหนักก็ตาม...


READ CONTINUE...



CHAPTER 12





“ต้องไม่รังแกผม ต้องคอย...อื้อ”
พูดมากนัก
ดำริในพระทัยขณะที่โน้มองค์ครอบครองกลีบปากหวานฉ่ำ คนตัวเล็กครางท้วงอึกอัก หากสุดท้ายก็นิ่ง ยอมโดนรังแกแต่โดยดี เสียงสรวลเบาๆนั้นยิ่งทำเอาลู่หานนึกเจ็บใจ รู้สึกเหมือนพ่ายแพ้อีกแล้ว
เจ้าตัวยุ่งเริ่มเงียบและออกอาการเคลิบเคลิ้ม ทำให้องค์ชายหนุ่มต้องฉวยโอกาสกอบโกยความหวานจากเรือนร่างเล็กๆนี่ เสื้อเล็กๆถูกดึงออกจากกายขาวเนียน ทรงปอกเปลือกจนเหลือแต่ความงดงาม ลู่หานทำหน้าเขินอายเล็กน้อย พอแก้ผ้าก็เหมือนมีอะไรมาอุดปาก เอาแต่ซบหน้ากับหมอนงุดๆ พยายามดึงผ้านู่นผ้านี่มาปิดส่วนสำคัญ ราวกับว่าองค์ชายหนุ่มทรงไม่เคยทอดพระเนตรความงดงามของตนเองเสียอย่างนั้น
มือน้อยสั่นระริกมาปลดสาดคาดบั้นพระเอวขององค์ชายหนุ่ม คนตัวเล็กหลุบตาลงต่ำอย่างเขินจัดเมื่อต้องปลดเปลื้องพันธนาการของอีกฝ่าย แก้มใสนั้นเปล่งปลั่งจนอดไม่ได้ที่จะต้องโน้มองค์กดนาสิกโด่งย้ำหลายต่อหลายครั้ง เมื่อผ้าแพรนุ่มผละจากผิวฉวี ทรงดึงรั้งร่างเล็กๆมาประทับจุมพิตอย่างหมันเขี้ยว ลู่หานแปะป่ายมือที่พระอุระกว้างเมื่อทรงฉวยเอาความต้องการสีสดของคนตัวบางมาลูบคลำเพื่อปลุกปั่นอารมณ์
“ฮื้อออออออ...”
คนตัวเล็กเชิดหน้าให้เชยชมลำคอและแผ่นอก ครางประท้วงอย่างน่าเอ็นดู มือน้อยๆเริ่มผลักไสพระหัตถ์แกร่งพรางตัดพ้อเสียงกระซิก
“...คนขี้...อึก...แกล้ง”
“จำคืนแรกที่เราแต่งงานกันได้หรือไม่”
พระชิวหาร้อนลากเลียตั้งแต่ไหปลาร้าสวยมาจนถึงยอดอกชมพูระเรื่อที่ชูชัน ก่อนจะชิมรสมันจนเกิดเสียง ลู่หานสะท้าน น้ำตาปริ่มจะหยด
“จะ...จำได้ คุณมันใจร้าย...อึก”
คนถูกบริภาษหยุดทุกการกระทำ ทรงช้อนพระเนตรขึ้นมองดวงหน้าแดงระเรื่อของเด็กหนุ่มที่หอบสะท้านเสียวด้วยแรงอารมณ์ ก่อนจะแย้มรอยสรวลร้ายกาจ
“ใช่ คราวนี้ข้าจะยิ่งร้ายกับเจ้า”
คำพูดนั้นช่างต่างกับการกระทำ เพราะโน้มองค์จุมพิตที่หน้าผากขาวของคนที่ถูกรังแกอย่างอ่อนโยน แต่ก็อาจจะเป็นการกระทำที่ร้ายกาจยิ่งนักก็เป็นได้ เพราะแค่นั้นกลับทำให้ร่างน้อยระทดระทวย ยอมให้เอาเปรียบอีกหลายครา
หัวใจของคนตัวเล็กเต้นระรัวเร็วเพราะความร้ายกาจขององค์ชายผู้สูงศักดิ์ มันทั้งปรวนแปร โหมกระหน่ำ ปั่นป่วนในท้องน้อยที่แขม่วขึ้นลงหอบหายใจตามการกระทำหนักเบาของคนตัวสูงกว่า ความรู้สึกรักนี่ช่างแปลกนัก ยิ่งความรู้สึกตอนถูกรักแปลกกว่า ความร้ายกาจแสนอ่อนโยนพร่างพรมลงมาทั่วผิวขาวเนียน ตอกย้ำเหมือนจะบอกว่าเขาเป็นของๆใคร และเขาก็มีความสุขยิ่งที่ใครบางคนมีอำนาจเหนือหัวใจดวงนี้
“เซ...ฮุน...”
กระซิบนุ่มพร้อมประทับจูบบดเบียดกลีบมากกันจนปากเรียวอิ่มแดงระเรื่อหวาน องค์ชายหนุ่มทรงเฟ้นฟ้อนผิวขาวจัดที่นุ่มเนียนยามจับต้อง บดเบียดพระวรกายแกร่ง นำความคึกแข็งถูไถกับความอ่อนนุ่มนั้น ทรงหอมหลายต่อหลายครั้งที่แก้มเนียนแดงระเรื่อ ลู่หานถูกดึงขยับกายขึ้นบนตักแกร่ง
พระหัตถ์เรียวประคองแก้มเนียนขณะที่สบดวงตาหวานเยิ้ม ลู่หานคลี่ริมฝีปากยิ้มให้ ชวนให้บดเบียดลงไปอีก สะโพกนิ่มร่อนขึ้นลงอย่างเชิญชวน จนอดไม่ได้ที่จะฝากฝังพระวรกายลงไปแรงๆ ลู่หานเผยอปากครางก่อนจะกดปากตนเองลงบนอังสากว้าง เจ้าตัวยุ่งของพระองค์หลับตาแน่นน้ำตาไหล ขณะที่ร่างเล็กๆสั่นเทิ้มในอ้อมพาหา
“อา...”
ทรงสูดโอษฐ์อย่างต้องใจ กับเส้นทางบีบรัดแน่นราวกับเป็นครั้งแรกที่ร่วมสมสู่ มันไม่ใช่ว่าไร้ช่องว่างจนต้องกระแทกกระทั้นลงไปเหมือนเมื่อก่อน หากช่องทางที่เปิดรับนั้นคับแคบ และบีบรัดไม่รู้ว่าจะเป็นความตั้งใจของคนตัวเล็กหรือไม่ หากว่ามันกลับสร้างความสุขสมจนอดครางไม่ได้
“ลู่หาน...อึก...ตัวยุ่งของข้า...”
“ยะ...อย่าเรียก...แบบนั้นนะ”
เขาไม่ยุ่งเสียหน่อย คนที่เดินเข้ามาในหัวใจเขาก่อนคือเจ้าตัวต่างหาก
ค้อนขวับๆ หากว่าก็ยังอดกอดอีกคนแน่นๆด้วยความกระสันไม่ได้ บางส่วนกำลังคลืบคลานในร่างกายเขา ให้ลึก...ลึกยิ่งอีก
หยาดเหงื่อพร่างพราวทั่วผิวกายขาวจัดที่เริ่มแดงระเรื่อ แม้กระนั้นองค์ชายหนุ่มก็ยังทรงเคล้นคลึง นวดเคล้า ประทับจูบดูดดื่มไม่ยอมห่าง ทรงเลื่อนหัตถ์มากอบกุมความต้องการอันน่ารักที่ดุดดันที่พระอุทร คนตัวเล็กเริ่มขยับไหวกายตามแรงที่ถูกคนใจร้ายย่ำยี ลู่หานครางอื้ออึงแนบบ่ากว้าง อยากจะกัดลงไปให้จมเขี้ยวนัก หากก็เกรงว่าอีกฝ่ายจะบาดเจ็บ
“อ๊ะ...”
ร่างน้อยผละหลุดเมื่อวรองค์แกร่งถอนองค์ออกจนเกิดเสียงดังป๊วบ เมื่อรู้สึกว่ายิ่งกอดแน่น การขยับเขยื้อนกายกลับไม่เป็นดังพระทัย ทรงจับร่างเล็กๆนั่นให้นอนคว่ำ ลู่หานคว้าเอาผ้าห่มมากอดแน่น เมื่อสะโพกมนถูกดึงรั้งให้เด่นแก่สายพระเนตรคมกริบ มันน่าอายจนเขาต้องหลับตาแน่น กลัวจะเห็นให้ยิ่งอาย
“ตรงนี้...รัดแน่นมากเลยนะ”
บางอย่างแทรกเข้ามาในเรือนร่างจนสะโพกขาวสั่น ค่อยๆขยับเขยื้อนมาจนเอนกายไปด้วยกัน ลู่หานหลุดครางเสียงสั่นเครือ ผสานกับเสียงหอบหายใจหนักๆจากผู้ที่อยู่เบื้องหลัง พระหัตถ์แกร่งเอื้อมสาวมาลูบไล้เบื้องหน้าทุกอย่างของเขา ไม่มีผิวพรรณส่วนใดไม่ถูกขย้ำจนสร้างความวาบหวามในท้องน้อย แผ่นหลังแบบบางเบียดเสียดกล้ามเนื้อแน่นขนัด จังหวะการขยับกายเขยื้อนเข้าออกเริ่มเป็นจังหวะ เรียวโอษฐ์หยักขบเม้มใบหูนิ่มจนคนตัวเล็กครางหวิว กระซิบบอกสุรเสียงนุ่ม
“ตรงนี้...รัดข้าแน่นดีเหลือเกินนะลู่หาน...”
“อื้ออออออออ...”
อย่าพูดแบบนั้นสิ
คนตัวเล็กเบือนหน้าหนี องค์ชายหนุ่มก็จุมพิตแนวกราม ทรงยึดลำน่องเพรียวเอาไว้ก่อนจะสอดใส่เข้าไปแรงๆ คนตัวเล็กหลุดครางสั่นทุกครั้งที่ถูกกระทำเช่นนั้น
“อื้อ...อิ...อื้ออออออ อ๊ะ...ฮ้า เซ...อ๋าาาาาาา...!!”
“ลู่...อึก...เจ้า...เจ้ามัน...ฮ้า แน่นดีจริงๆ...อึก!”
“อ๊า!!!”
แรงสอดเสียดครั้งสุดท้ายรุนแรงจนถึงจุดหมายกันทั้งคู่ คนตัวเล็กสะดุ้งซบลงบนฟูกนอนโดยแรงเมื่อความร้อนผ่าวระเบิดใส่ช่องในจนเต็มเปี่ยม เช่นเดียวกับคนเองที่ปล่อยเลอะฟูกนอนจนเกิดคราบ ลู่หานหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ประสานเสียงกับอีกคน องค์ชายหนุ่มซบพระพักตร์ที่แผ่นหลังขาวนวลอย่างเหนื่อยอ่อน ลืมเนตรขึ้นมาเห็นพระชายาคนงามเหลียวดวงหน้าหวานมาประคองพระพักตร์คม
“ผมรักคุณ”
ลู่หานบอกอย่างอ่อนแรง ประทับจูบที่พระนลาฏชื้นเหงื่ออย่างรักใคร่ องค์ชายหนุ่มแย้มรอยสรวลมองดวงตากลมโตที่ปรือปิดไปเกินครึ่ง ทรงดึงร่างเล็กๆนั่นมาซบแนบอุระกว้าง เวียนจูบเวียนหอมหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งลมหายใจของภรรยาสม่ำเสมอ กระซิบบอกอย่างลึกซึ้ง


“ข้ายิ่งกว่านั้นเสียอีก”





READ CONTINUE...