วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

CHAPTER 2-2





“ไม่เจ็บ...” คำปลอบนั้นราวกับปลอบเด็กกำลังจะฉีดยา “...คราวนี้จะไม่ทำเจ้าเจ็บ...”

ริมฝีปากหยักกดแนบลงมาอีกครั้งราวกับปลอบประโลมให้คนตัวเล็กหายกลัว ลิ้นร้อนแตะเบาๆบนเรียวปากนิ่ม ครานี้คนตัวเล็กยอมเผยอให้มันแทรกเข้าไปแต่โดยดีเมื่อรู้ว่าคงไม่อาจต้านทาน ร่างสูงประคองท้ายทอยของอีกฝ่ายขึ้นเพิ่อกดจูบให้ลึกซึ้งกว่าเก่า ลู่หานดันอกอีกคนออกหลังจากถูกช่วงชิงลมหายใจไปนานพอควร

คนตัวเล็กหลุบตาลงต่ำ หากอีกคนก็ก้มหน้าลงมาปล้ำจูบอีกครั้ง ลิ้นร้อนไล้เลียลิ้นนิ่มพลางสำรวจไปทั่วภายในเรียวปากนิ่ม ลู่หานครางฮือประท้วงเมื่อเริ่มหมดลมอีกรอบ ร่างของเขาถูกโอบกอดพร้อมลากไล้ฝ่ามือทั่วแผ่นหลังบอบบางที่สะท้านขึ้นมาแนบชิดกับผู้ถูกกระทำ ร่างสูงผละจากมาประทับจูบที่แก้ม ปาก คาง คิ้ว ไล้ฝ่ามือลงบนแก้มนิ่มของคนที่เพียรก้มหน้าหลบสายตา ปัดผ่านแพขนตาหนา มันนุ่มเนียนดีจริงๆ

“เพราะผม...มีประโยชน์ใช่มั้ย”

คำถามราวตัดพ้อดังขึ้นโดยที่แม้แต่คนถามก็ยังไม่รู้ตัว คนถูกถามนิ่งไปนิด ก่อนจะผละออกมาดึงมือขาวเนียนไปไล่จุมพิต ลู่หานขยับตัวนอนตะแคงใต้ร่างของอีกฝ่าย เซฮุนก็กดจูบลงมาบนบ่าเนียนห่มคลุมไปด้วยผ้าแพรของชนชั้นสูง ปลดสายรัดเอวออกอย่างรวดเร็วแล้วเลื่อนฝ่ามือแกร่งเข้าลูบไล้ผิวกายนวลเนียนด้านใน วางลงบนหน้าอกขาวบอบบางก่อนจะบดขยี้น้อยๆ ที่ยอดถันเต่งตึงขึ้นสู้มือของเขา ลู่หานผวาเกร็งหลบฝ่ามือ หากกลับกลายเป็นว่าแผ่นหลังของเขาเสียดสีกับแผ่นอกของคนที่นอนซ้อนกันอยู่ ริมฝีปากหยักประทับลงบนใบหูนิ่ม ก่อนจะส่งปลายลิ้นเข้าตวัดแตะป่ายตามใบหูนิ่ม สัมผัสเหนอะหนะทำเอาลู่หานหลับตาแน่น พร้อมด้วยดวงหน้าที่แดงเป็นเปื้อน เขาหลุดครางออกมาเบาๆเมื่อมือนั้นลากจากแผ่นอกผ่านมาหน้าท้อง เลื่อนมายังความเป็นชายที่สงบนิ่ง

“ระ...รัชทายาท...”

ดวงหน้าหวานเบือนมามองคนกระทำ ดวงตาหวานช่ำปรือปรอยลงโดยธรรมชาติ วาววับด้วยน้ำตาอย่างไม่ตั้งใจ เรียวปากแดงก็บวมเจ่อชวนให้โน้มลงจุมพิตอีกครั้ง ลู่หานผวาคว้าเกาะเกี่ยวไหล่กว้าง เลื่อนมายังท้ายทอยของอีกฝ่าย รู้สึกละอายใจเมื่อเผลอตอบสนองอีกคน หากเขาก็ครางแนบชิดเรียวปากหยักเมื่อส่วนปลายของความเป็นชายถูกปลายนิ้วของอีกฝ่ายบดขยี้ เผลอกระดกสะโพกขึ้นรับแรงสัมผัสนั่น ขาเรียวอ้าออกและจิกลงบนผ้าปูนอนอย่างรัญจวนใจ ความเสียวไล่พล่านทั่วมวลท้อง พาลให้หัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ ลู่หานเริดหน้าขึ้นให้อีกคนประทับจูบที่ลำคอระหงอย่างยินยอม

เขาคงไม่ได้อยู่ในสถานะที่ขัดขืนคนตรงหน้าได้ มีแต่ต้องยอมเท่านั้น

ผ้าแพรราคาสูงเลื่อนหลุดจากผิวขาวจัด ลู่หานหอบหายใจในความมืดช้อนตาสบดวงตาสีดำเข้มของอีกฝ่ายที่จับจ้องมาอย่างโหยกระหาย ขณะที่ริมฝีปากหยักยังประทับที่แผ่นอกบอบบาง ดูดดุนเม็ดทับทิมสีหวานจนเกิดเสียในความเงียบ คนตัวเล็กครางแผ่ว ก่อนจะรั้งดวงหน้าคมนั้นมาประทับจูบอีกครั้ง ขณะที่สะโพกนิ่มถูกจับมาถูไถที่เอวแกร่งน้อยๆราวกับระบายความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้น บางอย่างที่สัมผัสทักทายกัน ทำเอาลู่หานหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

มือร้อนแตะเบาที่ทางเขาสีชมพูสวย ดุนดันปลายนิ้วเข้าไปทำเอาร่างเล็กเผยอปากครางเห็นไรฟันขาวจัด เสียงหัวเราะของผู้เหนือกลัวดังขึ้น ร่างสูงกระซิบเบาๆ

“รู้สึกดีใช่มั้ยเล่า”

ปลายนิ้วเรียวที่อยู่ด้านในขยับเพียงเล็กน้อย ลู่หานก็ผวาเกร็งทั้งร่าง ช้อนตามองอีกฝ่ายอย่างอ้อนวอน ด้วยดวงหน้าที่ร่างสูงจะไม่ยอมให้ใครได้เห็นมันเป็นอันขาด

นิ้วของเขาผูกสัมผัสรอบด้าน ช่างทางด้านล่างขมิบรัดอย่างบ้าคลั่งจากรอบสารทิศทำเอาเขาแทบคลุ้มคลั่ง อยากจะกลืนกินร่างเล็กเสียเดี๋ยวนี้ หากทว่ายังไม่ได้...ยังไม่ได้หรอก

“อ้อนวอนมาสิ”

เสียงกระเส่าทรงเสน่ห์ทำเอาลู่หานที่กำลังซุกหน้าลงกับบ่ากว้างเปล่าเปลือยนั้นเม้มปากแน่น เขาขยับสะโพกหนีนิ้วร้ายนั้นเป็นคำตอบ หากสิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นเอวบางถูกรวบ ร่างสูงผละกายออกห่าง ลู่หานก็หลับตาแน่นไม่ยอมมองหน้าคนกระทำ

“เจ้านี่มัน...ดื้อจริงๆเลยนะ”

คำพูดราวเอ็นดูนักหนา ดังขึ้นมือมือเขียวจับปลายคางมนส่ายไปมา ลู่หานเอื้อมมือสั่นๆไปจับฝ่ามือของอีกฝ่าย พร้อมดึงออกจากกายพร้อมเสียงคราง ลืนตาขึ้นมองอีกคนที่มองเขาอย่างไม่พึงพอใจพร้อมกับเอ่ยเสียงเครียด

“คุณนั่นแหละ ทำเป็นใจร้าย แต่จริงๆก็หลงผมแล้วล่ะสิ”

คำพูดนั้นเรียกประกายตาประหลาดจากคนฟัง ร่างสูงก้มหน้าลงบดขยี้เรียวปากนิ่มของคนที่ปากเก่ง กัดงับเบาๆแล้วดึงมันเล่นอย่างหมันเขี้ยว ลู่หานช้อนตาขึ้นมองอย่างไม่เกรงกลัวสักเท่าไหร่ เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อขาเรียวถูกจับแยกออกกว้าง ร่างสูงขยับกายเพื่อให้สอดใส่ได้ถนัด มองอีกคนอย่างเหนือกว่า แล้วอดที่จะยิ้มอย่างชอบใจไม่ได้เมื่ออีกคนเอื้อมมือมาหยิบเอาเศษผ้ามาปิดหน้า ยังไงก็คงจะละอายอยู่มากสินะ

“เอาออกสิ...” ดวงตาสีเข้มพราวระยับมองเรือนร่างงดงามใต้ร่างนั่น “...ข้าอยากเห็นหน้าของเจ้านะ”

คำพูดเหมือนออดอ้อน ทำเอาลู่หานขยับเปิดตาขึ้นมองหน่อย ก่อนจะปิดลงอย่างเก่าพร้อมบอกเสียงอู้อี้

“จะทำก็ทำไปสิ พูดมากอยู่ได้”

คำพูดน่าเอ็นดูนั้นเรียกยิ้มกว้างจากคนที่มองอยู่ ร่างสูงหลุบสายตามองช่องทางรักของอีกฝ่าย ก่อนจะจับแกนกายของตนเองให้ดุนดันเข้าไปด้านใน รู้สึกได้ถึงอาการผวาของคนตัวเล็ก ลู่หานยกมือขึ้นมาดันหน้าท้องแข็งแกร่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนั่น พลางช้อนตามองอย่างตัดพ้อ กัดปากอย่างเคืองๆ

ไหนบอกว่าไม่เจ็บไง

แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ที่นี่ไม่ใช่ยุคปัจจุบันที่สารหล่อลื่นให้เพศเดียวกันยามร่วมรัก ลู่หานเลยได้แต่กัดปากแน่นอย่างอดทน ยอมนอนนิ่งๆให้แกนกายนั่นเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพางค์ของตนเอง ร่างสูงขบกรามแน่นจนนูนเป็นสันกับความคับแคบที่สัมผัสได้ แรงตอดรับไม่เป็นจังหวะเพราะความเกร็ง กำลังกลืนกินตัวตนของเขาเข้าสู่ห้วงหฤหรรษ์ หยาดเหงื่อไหลรินลงบนเรือนกายขาวจัดที่แดงเรื่อไปทั้งกาย เพราะความเจ็บปวดและความรู้สึกซาบซ่านไปทั่ว

“อืม อา....”

ร่างสูครางเสียงกระเส่าทำเอาคนฟังหน้าแดงเรื่อ ผ้าที่ปิดหน้าอยู่ถูกดึงออก มือที่พยายามจะยื้อเอาไว้ก็ถูกรวบไว้ เซฮุนรั้งร่างของพระชายาตนเองมาไว้บนตักแกร่ง พลวงมองดวงหน้าหวานที่บิดเบี้ยวด้วยรัญจวนใจ

เขาจับมือเล็กเกาะเกี่ยวบ่ากว้าง พร้อมกระซิบแผ่ว

“เกาะเอาไว้”

ลู่หานผวาเกาะตามคำสั่งพร้อมซุบหน้าลงบนหัวไหล่ชื้นเหงื่อของอีกฝ่าย ก่อนจะครางออกมาไม่เป็นภาษาเมื่ออีกคนยกสะโพกนิ่มขึ้นเพื่อกระแทกกายเขาลงไปหาความเป็นชายที่ชูชั้นเหมือนอสรพิษร้ายที่เตรียมกัดงับเหงื่อ มือเรียวแปะป่ายบนแผ่นหลังก่อนจะจิกเล็บตามความรัญจวนใจ ขาเรียวถูกจับแยกกว้างมากขึ้นพร้อมๆกับแรงกระแทกกระทันของคนที่อยู่เหนือเขา ทุกอย่างรุนแรง และรวดเร็วจนหายใจไม่ทัน

“อ๊า! อ๊า! อ๊ะ...!! เดี๋ยว! เดี๋ยวนะ...!! อ๊าาาาา!!

ร่างเล็กแทบขาดใจเมื่ออีกคนหมุนวนร่างเขาพร้อมบดขยี้กายแกร่งลงมาจนความซ่านเสียวบาดลึกถึงกระดูก ได้แต่เชิดหน้าครวญครางเสียงดัง ริมฝีปากหยักประทับลงมา ดูดกลืนเสียงหวาน ในตอนนี้ลู่หานผวาโน้มลำคอของอีกคนเพื่อจูบตอบ อาจจะไม่อ่อนโยน หากก็เร่าร้อนนัก

มือแกร่งลากไล้ตามผิวขาวเนียนที่ชื้นแฉะไปด้วยหยาดเหงื่อ ลูบไล้ต้นขาขาวที่สั่นระริกขณะที่โถมกายใส่ไม่ยั้ง เสียงหอบหายใจกระเส่าสลับกับครวญครางดังขึ้น ร่างเล็กส่ายหน้าอยู่ตรงแผงอกเมื่อเขาคว้าความต้องการของอีกคนมารูดรั้ง

น้ำสีขาวขุ่นทะลักเต็มฝ่ามือแกร่ง เขาจับอีกฝ่ายให้หันหลังให้ทั้งๆที่เรือนกายยังอยู่ในร่างเล็กนั่นๆ  ลู่หานเท้าตัวลงกับฟูกนอน รับรู้สึกแรงโถมกายที่ทำเอาเขาสั่นโยนไปด้านหน้า ขณะมือที่มือของอีกคนยังปรนเปรอเขาอยู่

พายุอารมณ์โถมกระหน่ำ ก่อนที่ร่างสูงจะกระแทกกายครั้งสุดท้ายลงไปแล้วแช่กายนิ่งให้หยาดรักพวยพุ่งเข้าใส่เรือนกายขาวจัดของอีกฝ่าย ร่างสูงทรุดตัวลง ผละกายจากมา พลิกร่างสั่นระริกของอีกฝ่ายให้หันมาเผชิญหน้า ลู่หานหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ขณะที่ริมฝีปากของเขาถูกฉกฉวย พะเน้าพะนอ เหมือนขอให้จูบตอบ ก่อนที่เขาจะสมยอมแต่โดยดี

“เจ้าเคยจุมพิตกับใครมาก่อนใช่หรือไม่”

ร่างสูงกระซิบแนบเรียวปากนิ่ม ไล้ข้างแก้มของอีกฝ่าย ลู่หานเผลอซุกหน้าเข้าเบียดร่างสูงของอีกฝ่าย แบ่งปันไออุ่นอย่างเผอเรอ เพราะอากาศตอนกลางคืนของโชซอนนั้นค่อนข้างจะหนาวเย็น

“อื้อ...”

“เคยใช่หรือไม่”

“...กับแฟน...” ลู่หานครางตอบ ง่วงจะตายอยู่แล้ว

“แฟน?

“คนรักของผมน่ะ สมัยเรียนมัธยม” 

ลู่หานงึมงำตอบ อีกคนทำหน้ายังไงเขาไม่รู้ เพราะกำลังหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน อยากจะนอนเต็มแก่ หากกลายเป็นว่าร่างสูงผลักร่างของเขาออก ลู่หานขยับตัวดึงผ้าห่มมาห่มอย่างไม่สนใจ คิ้วเรียวขมวดแน่นเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสชื้นแฉะที่ความต้องการอันสงบนิ่งของเขา

“อ๊ะ...!...”

คิ้วเรียวขมวดแน่น มือบางกำผ้าปูเตียงอีกรอบพร้อมเผลอกระดกสะโพกรับสัมผัสนั้นตามธรรมชาติ ดวงตาคู่สวยปรือขึ้นมอง ร่างสูงที่กำลังแหวกขาเรียวของเขาเพื่อชำเราส่วนลับด้วยริมฝีปาก

“...คะ...คุณ...”

ลู่หานเผยอปากครางเสียงสั่น ร่อนสะโพกรับความอุ่นร้อนชื้นแฉะนั่น มือบางเอื้อมไปสัมผัสศีรษะของอีกฝ่าย จิกแน่นพร้อมดึงดันผลักไสออกจนเป็นผล

ไม่สิ...

อีกฝ่ายเพียงแค่ตัดสินใจคืบคลานมาประกบริมฝีปากกับเขา รสจูบคราวนั้นดุดันกว่าครั้งเก่า เร่าร้อนจนแทบละอาย จมูกโด่งและริมฝีปากหยักพรมสัมผัสชื้นที่หลังใบหู กระซิบเบาๆขณะที่เคล้นคลึงรูดสาวจุดรวมความรู้สึกของร่างเล็กให้บิดเร่า

“เจ้าคงไม่คิดว่าข้าจะหยุดอยู่แค่นี้สินะ”

ลู่หานกัดริมฝีปากของตนเองพร้อมสูดหายใจอย่างซ่านเสียว ขณะที่อีกคนไล่จูบบนดวงหน้าเขา ก่อนที่เขาจะทำได้เพียงครวญครางอยู่ใต้ร่างสูงแกร่งที่ขยับกายอย่างรุนแรงทุกครั้งที่คลื่นอารมณ์ถาโถมลงมา

**


READ CONTINUE...






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น